(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ กังวลเฟดจะขึ้นดบ.หลังยอดค้าปลีกสหรัฐดีมาก,จับตา GDP ไทยวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 16, 2016 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดสหรัฐฯปิดเมื่อวันศุกร์ติดลบ เนื่องจากมีความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบหน้า หลังจากที่ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 ปี ด้านตลาดในยุโรปก็ปิดบวก หลังจากที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ออกมาดี โดยเฉพาะ GDP ของเยอรมนีที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้นักลงทุนคลายกังวลเรื่องเศรษฐกิจไป แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงก็เป็นส่วนหนึ่งที่กดดันตลาดสหรัฐฯให้ปรับตัวลงด้วย

อย่างไรก็ดี สำหรับบ้านเราวันนี้ให้ติดตามตัวเลข GDP งวดไตรมาส 1/59 ของไทยที่จะออกมา ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะออกมาดีกว่าคาดหรือไม่ โดยทาง"ทิสโก้"คาดจะโต 3.0% แต่ตลาดคาดโต 2.8% ซึ่งหากออกมาดีกว่าคาดจะทำให้มีแรงซื้อหนุนในระยะสั้น เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน และยังกังวลจะมีการปรับลดพอร์ตตาม MSCI ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,390-1,394 จุด ส่วนแนวต้าน 1,405-1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,535.32 จุด ร่วงลง 185.18 จุด (-1.05%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,717.68 จุด ลดลง 19.65 จุด (-0.41%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.61 จุด ลดลง 17.50 จุด (-0.85%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 18.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 8.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 20.29 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 5.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 10.33 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ ลดลง 16.25 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,382.43 จุด ลดลง 54.36 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 พ.ค.59) 1,394.69 จุด ลดลง 4.62 จุด (-0.33%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,113.59 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 พ.ค.59) ปิดที่ 46.21 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 49 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 พ.ค.59) ที่ 4.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.43/45 ทรงตัวรอประกาศตัวเลข GDP ไทย Q1/59 มองกรอบ 35.30-35.60
  • วันนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำไตรมาสแรก ปี 2559 เติบโต 3.2% นับเป็นขยายตัวสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาส ขณะที่ปรับประมาณการ GDP ปี 59 เป็นเติบโต 3.0-3.5% จากเดิมคาด 2.8-3.8%
  • ทริสประเมินธุรกิจแบงก์ปีนี้ยังมีแนวโน้มการชะลอตัวของสินเชื่อ-กำไรตามภาวะเศรษฐกิจ คาดทั้งปีสินเชื่อโตแค่ 3-5% ห่วงยอดสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเพิ่มในต่างจังหวัดกระทบเอ็นพีแอล ด้านเช่าซื้อรถทรงตัว
  • ธปท.เผยในระบบมีปริมาณและมูลค่าเช็คทั้งสิ้น 5.3 ล้านฉบับ 2.93 ล้านล้านบาท ผลจากการชะลอตัวเศรษฐกิจไทยส่งผลให้ธุรกรรมเช็คไม่คึกคักในทุกพื้นที่ปริมาณและมูลค่าเช็คลดลง เช็คทุกช่วงมูลค่าทั้งปริมาณและมูลค่าหดตัว พบเช็คเรียกเก็บข้ามจังหวัดหดตัวมากที่สุด รวมถึงมูลค่าเช็คคืนรวมและเช็คเด้งต่อเช็คเรียกเก็บก็เพิ่มขึ้นด้วย
  • นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้มีการปรับลดเป้าการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยในปีนี้ใหม่เหลือ 2.2% หรือมีเบี้ยรับตรงประมาณ 2.13 แสนล้านบาท จากต้นปีที่ตั้งเป้าเติบโตไว้ 3.5% เท่ากับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่ประเมินไว้เมื่อต้นปี
  • กสทช.ยันเอไอเอส-ทรู ยุติลงนามเอ็มโอยูคุ้มครองผู้ใช้บริการกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ หลังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ ขณะที่บอร์ดเอไอเอสเมินอนุมัติให้ดำเนินการ หวั่นเอ็มโอยูทำให้เสียประโยชน์ ด้านทรูไม่พอใจร่างที่ เอไอเอสส่งให้พิจารณา สวนทางประชุมร่วม 'วิษณุ' ที่โน้มน้าวให้ เอไอเอสลงนาม
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังให้ไปหารือกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงการดำเนินโครงการสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุในลักษณะการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (Reverse Mortgage) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมชราที่กำลังเกิดขึ้นในไทย กระทรวงการคลังจึงอยากให้แบงก์รัฐ ธนาคารพาณิชย์หรือแม้แต่บริษัทประกันภัย ออกผลิตภัณฑ์มาแข่งขันกัน โดยทางกระทรวงการคลังจะพยายามสรุปให้ได้ภายในปีนี้ เพราะเรื่องนี้มีแนวคิดกันมานาน แต่ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในไทย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AAV (ฟินันเซีย ไซรัส) "สะสม"ปรับเป้าขึ้นเป็น 6.90 บาท กำไรที่ดีเกินคาดมากใน 1Q59 จากความสามารถในการบริหารต้นทุนน้ำมัน ทำให้ปรับกำไรปี 2559-2560 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 20% เป็นโต 74% Y-Y ปีนี้และ +4% Y-Y ปีหน้า โดยปรับค่าใช้จ่ายน้ำมันลงเฉลี่ยปีละ 8% ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นในระยะถัดไปมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการปีนี้เพราะบริษัท hedge แล้ว 70% และทยอย hedge สำหรับปีหน้า ทั้งนี้ราคาหุ้นที่พักฐานตาม low season ใน Q2-Q3 จะเป็นโอกาสในการทยอยสะสม
  • ERW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"ปรับเป้าขึ้นเป็น 5.50 บาท กำไรที่แข็งแกร่งกว่าคาดใน 1Q59 (+86% Q-Q, +37% Y-Y) ทำให้ปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้นอีก 6% เป็นโตถึง 71% Y-Y แนวโน้ม 2Q-3Q59 ซึ่งเป็น low season ตามปกติมักขาดทุน แต่ในปีนี้อาจมีกำไรจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังเติบโตอย่างโดดเด่น
  • THAI (ยูโอบี เคย์เฮียน) ได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ยังแรงต่อเนื่อง ต้นทุนลดลงจากการปฏิรูปองค์กรในปี 58 และการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ต่ำเต็มที่เมื่อเทียบกับปี 58 ที่ทำประกันราคาน้ำมันในระดับสูงที่ 80-90 เหรียญ/บาร์เรล
  • KCE (ยูโอบี เคย์เฮียน) ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนเนื่องจากส่งออกกว่า 95% อีกทั้งคาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง 3Q59 เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
  • HMPRO (โกลเบล็ก) เป้า 8.80 บาท ปี 59 บริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่เพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 9-10 สาขา แบ่งเป็นสาขาโฮมโปร 5 สาขารวมเป็น 80 สาขา สาขาเมกาโฮม 3-4 สาขาเพื่อเพิ่มเป็น 10-11 สาขา และสาขาในมาเลเซีย เพิ่มอีก 1 สาขา รวมเป็น 2 สาขาภายในปลายปี พร้อมคาดการณ์รายได้ปี 59 ราว 5.8 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 12% กำไรสุทธิปี 59 ที่ราว 3.8 พันล้านบาทซึ่งเติบโต 10% และจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับดีขึ้นจากสาขาเมกาโฮมที่ปรับดีขึ้นจนล้างขาดทุนสะสมได้หมด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ