นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) เปิดเผยว่า บริษัทจะเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ทีเอสอาร์ ลาว จำกัด กับกลุ่มบริษัทเจบี นายชาคริต นักสอน สัดส่วน 51:49 เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากมองว่าตลาดเครื่องกรองน้ำในลาวถือว่ายังมีน้อยราย จึงเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายตลาดที่ยังมีช่องว่างในการเติบโตได้อีกมาก แต่คุณภาพน้ำยังเป็นข้อจำกัดของชุมชนในลาว จึงมีความเหมาะสมกับเครื่องกรองน้ำของ TSR บางรุ่นเท่านั้น
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างมองการขยายการลงทุนไปยังเวียดนามเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เห็นได้จากเวียดนามเริ่มมีการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมู่บ้านและคอนโดนิเนียม แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบใด อาจจะเป็นไปได้ทั้งการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น หรือการเข้าไปลงทุนเอง คาดว่าจะสรุปความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
"เราจะมีการส่งสินค้าไปขายจำนวน 2 อย่างก่อน คือเครื่องกรองน้ำ กับเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งเป็นการทดลองตลาดในช่วงเริ่มต้น โดยมองว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศน่าจะยังมีไม่มาก เพราะต้องใช้เวลาในการทำตลาด เนื่องด้วยลาวยังไม่มีผู้จำหน่ายเครื่องกรองน้ำอย่างจริงจัง ทำให้คนยังไม่รู้จักมากนัก แต่เราก็มีการส่งทีมขายเพื่อไปทำตลาดที่นั่น ขณะที่นอกจากลาวแล้ว ก็สนใจเวียดนาม ก็คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้"นายวิรัช กล่าว
สำหรับแผนการจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย และ Micro Finance ,Nano Finance เพื่อปล่อยสินเชื่อ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/59 โดยอยู่ระหว่างเตรียมยื่นขอใบอนุญาตปล่อยสินเชื่อดังกล่าวต่อธนาคารแห่งประเทศไทย หากได้รับใบอนุญาตก็จะเริ่มดำเนินการได้ทันที ซึ่งเบื่องต้นกำหนดวงเงินในการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ไม่เกิน 10,000 บาท/ราย เน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีการผ่อนชำระสินค้าของบริษัทฯอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 3-4 แสนราย
นายวิรัช เปิดเผยอีกว่า แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมออกสินค้าเครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่อีก 3-4 รุ่นในช่วงเดือน มิ.ย.และก.ค.59 และขยายสาขาต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ 5-7 สาขา โดยต้นปีที่ผ่านมาได้มีการขยายสาขาไปแล้ว 2 สาขา และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 3 สาขา รวมถึงการเพิ่มทีมขายทางโทรศัพท์ให้มากขึ้น
ส่วนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังคงมีการเติบโตที่ดีอยู่ โดยบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าทั้ง ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งก็จะพยายามเพิ่มสินค้าในกลุ่มดังกล่าวให้มากขึ้น คาดว่าสัดส่วนรายได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้จะอยู่ที่ 5% และที่เหลือเป็นเครื่องกรองน้ำ 95%
ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตราว 30% หรือมาอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 1,617.28 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 145.95 ล้านบาท แม้ว่าจะมีการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และขยายไปในธุรกิจปล่อยสินเชื่อ แต่ก็ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจใหม่อยู่ มองว่าสัดส่วนรายได้ดังกล่าวน่าจะยังมีไม่มากนักในปีนี้