นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหินปีนี้เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2558 โดยเน้นการขยาย ยอดขายภายในประเทศ และเปิดตลาดขายถ่านหินไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน
ในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินแผนการลดต้นทุน ในคลังสินค้า ท่าเรือ และระบบขนส่ง ทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น และได้มีการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ 0.05 บาทต่อหุ้น ไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 โดยในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นนโยบายลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งการนำทรัพย์สินที่มีอยู่ซึ่งก็คือท่าเรือ และคลังสินค้า มาให้บริการ เพื่อเพิ่มรายได้ที่มั่นคง อีกทั้งช่วยลดความผันผวนจากภาวะตลาด ซึ่งบริษัทเชื่อว่า นโยบายที่กำลังดำเนินอยู่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากธุรกิจถ่านหิน และผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นให้เติบโตอย่างมั่นคง
สำหรับผลประกอบไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า บริษัทฯมีรายได้ 940 ล้านบาท ลดลง 31.40 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม อยู่ที่ 1,370 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น เนื่องจากนโยบายลดต้นทุน ทั้งจากคลังสินค้า การขนส่ง และ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน พร้อมเน้นขยายตลาดในประเทศ ปริมาณการขายถ่านหินในประเทศในไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 0.45 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 0.43 ล้านตัน
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากกลยุทธ์การลดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มผลตอบแทนจากธุรกิจ เป็นผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเป็น 14.2% และมีกำไรสุทธิที่ 14 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/58 ที่มีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท รายได้รวมในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลง จากปีที่แล้วเนื่องจาก ยอดขายในต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง แต่บริษัทยังมีการเติบโตของปริมาณการขายในประเทศ ที่ 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58" นายพนม กล่าว