นางปิยะนุช รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5 พันล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาส 2/59 ที่จะมีงานมหกรรมไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค.นั้น บริษัทจะร่วมเปิดบูธในนามของ AIS โดยจะยกทัพสินค้าไอทีหลากหลายภายใต้แบรนด์ TWZ ไปจำหน่ายด้วย ทำให้เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้ต่อเนื่อง และยังคาดว่าในช่วงปลายปีเครือข่าย 4G จะแพร่หลายและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ลูกค้าให้ต่างจังหวัดที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญของ TWZ เปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ที่รองรับระบบ 4G มากขึ้น
ขณะเดียวกัน TWZ ยังจะทยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการแอพพลิเคชั่น “อีซี่ การ์ด" ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ “อี-มันนี่" (E-Money) ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท ไอพี เพย์เมนท์ โซลูชั่น จำกัด (IPPS) ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ “เพย์ฟอร์ยู" เพื่อผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการได้สะดวกขึ้น ซึ่งตั้งเป้ามีผู้ดาวน์โหลดและใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่างสม่ำเสมอจำนวน 2 แสนราย คิดเป็นรายได้ที่ TWZ สามารถรับรู้ได้อย่างน้อยเดือนละ 10 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้ TWZ จะสามารถทยอยรับรู้รายได้จากโครงการเดอะเพเซอร์ พัทยา ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การบริหารของ TWZ มูลค่า 500 ล้านบาท โดยการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้ว 25% ขณะที่ยอดขายโครงการอยู่ที่เกือบ 30% ซึ่งน่าพอใจมาก เช่นเดียวกับโครงการของบริษัท ปิยะชาติ จำกัด ที่ TWZ ถือหุ้น 100% ซึ่งจะมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในปี 60-61 โดยระหว่างนี้ บริษัทปิยะชาติ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยคาดว่าน่าจะดำเนินการได้ในปี 60
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/59 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,105.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.26 ล้านบาท คิดเป็น 15.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการขาย 955.44 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 75.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.32 ล้านบาท คิดเป็น 398.15% จากระยะเวลาเดียวกันของปี 58 ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.15 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากการขายในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้น มาจากการที่ TWZ มีการจำหน่ายสินค้าล็อตใหญ่ให้กับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (เอไอเอส) ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ TWZ มียอดขายเฉพาะแคมเปญนี้อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว TWZ ยังเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่รองรับระดับ 4G รวมถึงการที่ TWZ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย โดยใช้รูปแบบการขายผ่านสื่อออนไลน์ จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รายได้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาได้อย่างมีนัยสำคัญ
"ไตรมาสแรกปีนี้ เราออกสตาร์ทได้ดีมาก เพราะนอกจากจะมียอดขายจากแคมเปญเปลี่ยนมือถือจากระบบ 2G เป็น 3G แล้ว เรายังเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่รองรับระดับ 4G ซึ่งต้องยอมรับว่า กระแส 4G ยังมาแรงสวนทางกับภาพรวมของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้สินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวกับ 4G ยังสามารถเติบโตได้ ขณะที่ยุทธศาสตร์ของ TWZ ถือว่าเดินทางถูกทาง ทั้งการเกาะกระแสการเติบโตของ 4G และการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย การบริการหลังการขายและประสบการณ์การทำธุรกิจที่ยาวนานกว่า 20 ปี"นางปิยะนุชกล่าว