บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น (IRCP) ปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโตไม่ต่ำกว่า 70% จากเดิมคาดโต 50% หลังงานในมือพุ่งเป็นพันล้านบาท รับรู้รายได้ 85%ในปีนี้ พร้อมกันนั้น ยังเตรียมนำบริษัทร่วมทุนในนาม บริษัท สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ลุ้นกำไรทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้หลังมีงานทยอยเข้าต่อเนื่อง ส่วนแผนร่วมทุน TAO Network จากเกาหลีใต้ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 3/59
นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ IRCP เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มเป้าหมายเติบโตของผลประกอบการในปี 59 เป็นเติบโตไม่ต่ำกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 1,229 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำระดับสูงสุดใหม่ จากปีที่แล้วที่ทำกำไรสุทธิได้ 54 ล้านบาท หลังในไตรมาส 1/59 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.17 ล้านบาท และมีรายได้รวม 363.86 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือมากถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 85% ประกอบกับเตรียมที่จะเข้าประมูลงานเพิ่ม มูลค่ารวมประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่มีโอกาสชนะสูงถึง 60% นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทลูกก็ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น บมจ.ไอที กรีน และธุรกิจคราวน์เซอร์วิส
รวมถึงบริษัทยังได้เข้าร่วมลงทุนใน บริษัท สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณโทรคมนาคม เบอร์ 1 ของไทย ในสัดส่วนการถือหุ้น 51% ร่วมกับกลุ่มบริษัท สิงห์คอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ที่ถือหุ้นสัดส่วน 49% เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาค่อนข้างมากในปีนี้ โดยตั้งเป้ารายได้ระดับ 200 ล้านบาทในปีนี้ และขึ้นเป็น 500 ล้านบาทในปี 60 และในปี 61 รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ธุรกิจการติดตั้ง ระบบโทรคมนาคมโดยเฉพาะ 4G กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรตอร์) ต้องเร่งลงทุนโครงข่าย ประกอบกับ ธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรที่สูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทในปีนี้ และนับเป็นไปตามนโยบายความยั่งยืนที่บริษัทกำหนด
"สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป ที่เราเข้าไปถือหุ้น นับเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณโทรคมนาคม ได้รับความไว้วางใจจากโอเปอเรเตอร์รายใหญ่หลายราย ซึ่งธุรกิจดังกล่าวต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ จึงมีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้างสูง"นายกังวาล กล่าว
นายกังวาล กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมยื่นแบบเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.ไอที กรีน ในไตรมาส 3/59 ก่อนจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 59 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ IRCP ถือหุ้นเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทยังได้เซ็นสัญญาความร่วมมือ (MOU) จากพันธมิตรเกาหลีใต้ชื่อ TAO Network ผู้ประกอบกิจการอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนธุรกิจ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายไตรมาส 3/59
"บริษัทจากเกาหลีมีขนาดใหญ่มากในประเทศเกาหลี และเป็นผู้นำในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเราก็มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์คที่จะช่วยขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้เติบโตได้ และเป็นการรองรับนโยบาย Digital Economy" นายกังวาล กล่าว
ด้านนายสิงหา เขียวดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์คอม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณโทรคมนาคมนับว่ามีการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะหลังการประมูล 4G ซึ่งผู้ชนะจะต้องมีการวางระบบโครงข่าย 4G ดังนั้นบริษัทจึงต้องเร่งขยายงาน ซึ่งการเข้าร่วมทุนกับ IRCP ได้ส่งผลดีทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งด้านการเงิน สามารถขยายงานได้อย่างก้าวกระโดด รวมไปถึงสามารถเข้าถึงทรัพยากรเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้บริษัทมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
สำหรับจุดเด่นของบริษัทคือความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรคมนาคมซึ่งดำเนินการมามากกว่า 10 ปี ทำให้การติดตั้งมีความรวดเร็วโดยสามารถติดตั้งได้เสร็จสิ้นภายใน 1 วันเท่านั้น นอกจากนี้ด้วยความที่เข้าใจระบบจึงทำให้การติดตั้งมีความแม่นยำ ประกอบกับสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุด
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีศูนย์อบรมพนักงานที่จะผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญออกมารองรับกับการเติบโต โดยบริษัทมีทีมวิศวกรทดสอบสัญญาณ 50 ราย และทีมติดตั้งอุปกรณ์ 100 ทีมด้วยกัน จึงทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากโอเปอเรเตอร์มือถือ รวมไปถึง ผู้จำหน่ายอุปกรณ์ให้กับโอเปอเรเตอร์ชื่อดัง ในการส่งมอบงานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีความสามารถในการรับงานติดตั้งถึง 10,000 แห่งต่อปี นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจการก่อสร้างเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคมมากขึ้นด้วย