สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (9 - 13 พฤษภาคม 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 420,784.78 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 84,156.96 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 130% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 78% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 327,631 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 63,001 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 9,944 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 1.1 ปี) LB196A (อายุ 3.1 ปี) และ LB21DA (อายุ 5.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 15,272 ล้านบาท 10,568 ล้านบาท และ 7,242 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC16OA (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 834 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด รุ่น ICBCTL264A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 800 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) รุ่น PS166A (A) มูลค่าการซื้อขาย 590 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร โดยในวันพุธที่ 11 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดย กนง. มองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลในภาคการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่ยังคงชะลอตัว สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% นับเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ปรับเพิ่มขึ้น 20,000 ราย อยู่ที่ 294,000 ราย แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 270,000 ราย ทั้งนี้ ตลาดติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะรายงานในสัปดาห์หน้า
สัปดาห์ที่ผ่านมา (9 พ.ค. - 13 พ.ค. 59) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 14,507 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 7,600 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 2,666 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 4,241 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (9 - 13 พ.ค. 59) (3 - 4 พ.ค. 59) (%) (1 ม.ค. - 13 พ.ค. 59) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 420,784.78 183,158.31 129.74% 8,621,134.01 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 84,156.96 91,579.15 -8.10% 99,093.49 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 115.08 115.15 -0.06% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 108.43 108.48 -0.05% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (13 พ.ค. 59) 1.36 1.38 1.38 1.45 1.58 1.83 2.22 2.55 สัปดาห์ก่อนหน้า (4 พ.ค. 59) 1.36 1.38 1.38 1.45 1.59 1.83 2.22 2.56 เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 0 0 0 -1 0 0 -1