นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้และกำไรในปี 59 คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากเริ่มรับรู้รายได้ในเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ (MW) ติดตั้งระบบหมุนตามดวงอาทิตย์และอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง และนับเป็นโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดของบริษัท
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ภาคใต้ กำลังการผลิตรวม 126 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนประมาณ 10,400 ล้านบาท นั้น มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปด้วยดี และคาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาสที่ 3 นี้ ทำให้ในปี 2559 นี้ บริษัทจะมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจโรงไฟฟ้ากว่าเท่าตัว กล่าวคือ จากกำลังการผลิต 188 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นเป็น 404 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการขึ้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จังหวัดชัยภูมิ 5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์ ด้วยงบประมาณการลงทุนก่อสร้างประมาณ 20,000 ล้านบาท คาดจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีครึ่ง กำหนด COD ภายในเดือนมิถุนายน 2561 ทำให้ EA จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 664 เมกะวัตต์
ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 1/59 มีรายได้รวม 2,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 444 ล้านบาท หรือ 22% และมีกำไรสุทธิ 711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลัก ๆ แล้วกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จังหวัดลำปาง 90 เมกะวัตต์ ที่เริ่ม COD เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ทำให้ไตรมาสแรกของปีนี้ ผลิตไฟฟ้าได้เต็มไตรมาส ในขณะที่เมื่อปีที่แล้วโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ผลิตไฟเพียง 1 เดือนครึ่งเท่านั้น ส่งผลให้ภาพรวม บริษัทมีรายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 188 เมกะวัตต์ อยู่เท่ากับ 1,046 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36%
ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลอยู่ที่ 1,326 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 32% ถือว่าผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้า