นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะโครงการผลิตผลิตปิโตรเลียม (PPP) เดินเครื่องผลิตได้ 100% หลังจากเดินท่อก๊าซแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงโรงงานโซลาร์รูฟท็อป และโรงงานผลิตสารเคมีในผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ UAPC ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเฟส 3 เพื่อรองรับการทำการตลาดไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV
อีกทั้งโครงการผลิตไบโอดีเซล เฟส 2 ของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบกระบวนการผลิต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในเดือน พ.ค.และเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน มิ.ย.นี้ โดยกำลังผลิตจะเพิ่มเป็น 8.1 แสนลิตรต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 3.6 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80-100 ล้านบาท
ดังนั้น จึงมั่นใจว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 59 จะมีการเติบโตอย่างชัดเจน จากการรับรู้รายได้จากโครงการต่าง ๆ ที่บริษัทมีการลงทุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้เต็มปี และเชื่อว่ารายได้ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ระดับ 1,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่มีรายได้ 1,500 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 บริษัทฯมีรายได้รวม 326.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 263.25 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 21.07 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.31 ล้านบาท
ขณะที่ EBITDA หรือกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายงวดไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 54.60 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆที่บริษัทได้ลงทุนในช่วงที่ผ่านมา อาทิ โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (solar roof top) , โรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG), โรงงานผลิตผลิตปิโตรเลียม (PPP) และโรงงานผลิตสารเคมีในผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ UAPC
"ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เมื่อพิจารณาจากนโยบายภาครัฐ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ทำให้การผลิตในบางโครงการอาจจะยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ แต่ในไตรมาส 2 นี้จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น เพราะโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) ที่สุโขทัยสามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังผลิต"นายชัชพล กล่าว