บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ปรับคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในปี 59 โดยเชื่อว่ากำไรและรายได้จะเติบโตขึ้นทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องจากปี 58 จากเดิมที่เคยคาดว่ากำไรอาจทำได้ใกล้เคียงปีก่อน เนื่องจากมองว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าคาดตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนบัตรใหม่ และการทำโปรโมชั่นและแคมเปญการตลาดร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ว่ากำไรปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) จากปีก่อนที่มีกำไร 2.07 พันล้านบาท โดยไตรมาส 1/59 ทำกำไรแล้ว 635.01 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 574.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิตที่เป็นแรงหนุนสำคัญ
ขณะที่บริษัทจะมีโอกาสปรับประมาณการยอดใช้จ่ายบัตรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังเป็นเติบโตราว 20% จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15% หลังจากไตรมาส 1/59 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 15.5% และคาดว่าไตรมาส 2/59 จะยังสามารถเติบโตได้ในระดับดังกล่าว
บริษัทยังเดินหน้าตามเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของบัตรเครดิต KTC ให้เป็น 15% ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตลาด จากปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ราว 10% โดยเจ้าตลาดในอันดับที่ 1 มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 20% ในปัจจุบัน โดยกลยุทธ์ในการเพิ่มมาร์เก็ตแชร์จะมาจากการเพิ่มจำนวนบัตร และการรุกขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงการทำโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าพันธมิตรในทุกหมวดเพิ่มมากขึ้น
ด้านนางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า การที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนบัตรใหม่ ซึ่งในไตรมาส 1/59 มีจำนวนบัตรใหม่ที่เพิ่มเข้ามา 108,124 ล้านใบ จากเป้าหมายทั้งปี 400,000 ใบ โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ถือบัตรเครดิต KTC ทั้งหมดอยู่ที่ 1.99 ล้านใบ จากสิ้นปี 58 อยู่ที่ 1.88 ล้านใบ
นอกจากนี้ ปัจจัยที่เพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาจากการที่บริษัทขยายการเข้าไปร่วมทำโปรโมชั่นกับร้านค้าพันธมิตรใหม่ ๆ ในทุกหมวด และการอัดเคมแปญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากไตรมาสแรกที่มีแคมเปญออกมา 300 แคมเปญ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนที่มี 200 แคมเปญ
ขณะที่ นางสาวสุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจสินเชื่อบุคคล KTC กล่าวว่า แนวโน้มยอดสินเชื่อส่วนบุคคลในไตรมาส 2/59 จะยังเติบโตได้ราว 15% จากไตรมาส 1/59 ที่ ณ สิ้นไตรมาสอยู่ที่ 1.89 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดสิ้นเดือน เม.ย.59 ยอดสินเชื่อบุคคลของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดสินเชื่อบุคคลยังเพิ่มขึ้นได้ในไตรมาส 2/59 มาจากในเดือน พ.ค.จะเป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอม ผู้ปกครองต่างมีความต้องการใช้เงินมาก ซึ่งส่งผลให้มีการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้นในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้จะเติบโตได้ 15% มาอยู่ที่ 2.11 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่ 1.85 หมื่นล้านบาท
นายระเฑียร กล่าวต่อว่า แนวโน้มระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 ที่ 2% เล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติที่ NPL ในไตรมาส 2 ของทุกปีจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีวันหยุดเทศกาลติดต่อกันมาก ทำให้ลูกค้าส่วนหนึ่งมีการผิดนัดชำระ หรือขอเลื่อนชำระออกไป แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะควบคุมระดับ NPL ในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ไม่เกิน 2.1%
ส่วนนายชุติเดช ชยุติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานคอร์ปอเรทไฟแนนซ์ KTC กล่าวว่า ในไตรมาส 2/59 การตั้งสำรองคาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/59 ที่ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจาก NPL ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับบริษัทมี Coverage Ratio ที่อยู่ในระดับสูงกว่า 400%