นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ธนาคารได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสาขาเต็มรูปแบบจากธนาคารกลางเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถมอบบริการทางการเงินได้หลากหลายมากขึ้น ตอบสนองความต้องการในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามหรือกำลังมองหาช่องทางการขยายตลาดในท้องถิ่น รวมถึงนักธุรกิจจากเวียดนามที่สนใจเข้ามาลงทุนขยายธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งมั่นใจว่าธนาคารจะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในเวียดนามอย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากธุรกิจไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามให้ได้ 25% ภายในปี 61 และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนามให้ได้ 10% ภายในปี 63
“ธนาคารมีนโยบายในการขยายเครือข่ายสาขาต่างประเทศตามทิศทางการออกไปลงทุนของลูกค้า ซึ่งเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ลูกค้าของธนาคารให้ความสนใจและได้ขยายฐานการลงทุนออกไป ด้วยมองเห็นโอกาสและศักยภาพทางธุรกิจ เพราะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มีอัตราจีดีพีสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียน และถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมเทียบเคียงกับประเทศไทย ดังนั้นการเปิดสาขาเต็มรูปแบบในครั้งนี้นอกจากจะช่วยสนับสนุนการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศแล้ว จะทำให้ธนาคารยิ่งมีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายลูกค้าของไทยไปสู่การลงทุนในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีศักยภาพทางธุรกิจ รวมถึงการให้บริการลูกค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศญี่ปุ่นที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ CLMV ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเครือข่ายสาขาต่างประเทศที่แข็งแกร่งของธนาคารไทยพาณิชย์" นายวิชิต กล่าว
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับสูง และมีศักยภาพด้านการค้าการลงทุนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขของสำนักงานสถิติกลางของเวียดนามที่ออกรายงานว่า เศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2558 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากภาคการส่งออกที่เข้มแข็ง มีเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าสูงเป็นประวัติการณ์ และกำลังการบริโภคภายในประเทศมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประเทศเวียดนามมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีที่ร้อยละ 6.67 สูงเกินเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้เดิมที่ร้อยละ 6.2
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์ได้เปิดให้บริการสาขานครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยให้บริการธุรกรรมทางการเงินเต็มรูปแบบ เช่น เงินฝาก สินเชื่อ การค้าต่างประเทศ เงินโอน และแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎระบียบ และข้อมูลการดำเนินธุรกิจต่างๆ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของธนาคารที่เข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าในเวียดนามมาอย่างยาวนาน
ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารไทยแห่งที่สอง ที่เปิดทำการในเวียดนามและได้รับใบอนุญาตระยะเวลา 99 ปี จากธนาคารกลางเวียดนาม มีนางสาวศรัณยา สกลธนารักษ์ ดำรงตำแหน่ง General Director ดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานสาขาจำนวน 40 คน ทั้งชาวไทย และชาวเวียดนาม มีสำนักงานสาขามีพื้นที่ขนาด 785 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางนครโฮจิมินห์ โดยสาขานครโฮจิมินห์จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายธนาคารฯในกลุ่มประเทศ CLMV และยกระดับการให้บริการทางการเงินของธนาคารและสนับสนุนลุกค้าธุรกิจของธนาคารฯที่ต้องการลงทุนหรือการค้าในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง
ขณะนี้ธนาคารไทยพาณิชย์มีความพร้อมในการให้บริการสาขาโฮจิมินห์ที่จะเชื่อมโยงการให้บริการ ด้วยความมั่นคงแข็งแกร่ง สร้างความรู้ความเข้าใจการค้าการลงทุน ทำให้ธนาคารฯสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้าชาวไทยที่อยู่ในเวียดนาม ลูกค้าชาวเวียดนาม และนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการใช้โอกาสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ขยายกิจการสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งธนาคารฯมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของลูกค้าในเวียดนาม
ธนาคารคาดว่าการดำเนินธุรกิจในเวียดนามจะประสบความสำเร็จ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากธุรกิจไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามให้ได้ 25% ภายในปี 2561 และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนามให้ได้ 10% ภายในปี 2563
นอกจากนี้ การจัดตั้งสาขานครโฮจิมินห์จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายของธนาคารฯในกลุ่มประเทศ CLMV และยกระดับการให้บริการทางการเงินของธนาคารที่ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าธุรกิจของธนาคารที่ต้องการทำการลงทุนหรือการค้าในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงนี้การเปิดสาขาเต็มรูปแบบในครั้งนี้นอกจากจะช่วยสนับสนุนการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศแล้ว จะทำให้ธนาคารฯยิ่งมีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายลูกค้าของไทยไปสู่การลงทุนในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีศักยภาพทางธุรกิจ รวมถึงการให้บริการลูกค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศญี่ปุ่นที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ CLMV ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเครือข่ายสาขาต่างประเทศที่แข็งแกร่งของธนาคารไทยพาณิชย์
สำหรับเครือข่ายของธนาคารไทยพาณิชย์ในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ประกอบด้วย ธนาคารในเครือ คือธนาคารกัมพูชาพาณิชย์ในกัมพูชา และสาขาเวียงจันทน์ของธนาคารในสปป.ลาว ธนาคารยังมีสำนักงานผู้แทนในกรุงย่างกุ้ง เมียนมาร์ ซึ่งทางธนาคารมุ่งหวังที่จะยกระดับเป็นสาขา หากกฎระเบียบของทางการเมียนมาร์เปิดโอกาส