นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ (TNP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/2559 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯจะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายรายได้ทั้งปีให้เติบโต 10–15% จากปีก่อนได้สำเร็จ
โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะขยายสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 15 ล้านบาท จากปี 58 มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 12 สาขา ซึ่งในไตรมาสแรกเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 1 สาขา ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ส่วนสาขาที่เตรียมจะเปิดสาขาที่ 2 อยู่ที่ อ. แม่ขะจาน คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนสาขาที่ 3 อยู่ระหว่างประเมินพื้นที่ที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/59 ตามแผนที่วางไว้
ประกอบกับศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ บนเนื้อที่กว่า 9,200 ตารางเมตร ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานได้ภายในไตรมาส 4/59 โดยใช้งบลงทุนราว 150-200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายปี 58 และคาดว่าจะสามารถรองรับการขยายสาขาของบริษัทฯ ได้ถึง 50 สาขา สนับสนุนให้บริษัทฯสามารถควบคุมการบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์
"ทิศทางไตรมาส 2/59 ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากไตรมาสแรก ภาพรวมเศรษฐกิจใน จ.เชียงราย มีแนวโน้มที่ดี กำลังซื้อจากผู้บริโภคยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจสิ้นปีนี้ธนพิริยะจะมีสาขาที่เปิดให้บริการรวมกันทั้งสิ้น 15 สาขา เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 14 สาขา และศูนย์การค้าส่ง 1 สาขา รวมทั้ง ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่คาดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานได้ไตรมาส 4/59 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการของบริษัทฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ"นายธวัชชัย กล่าว
ทั้งนี้ มองภาพรวมธุรกิจปี 59 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลงานไตรมาส 1/59 ออกมาอย่างน่าประทับใจ มีการเติบโตของกำไรกว่า 61% ส่วนรายได้จากการขายและบริการเติบโตกว่า 13% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านนางอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.96 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6.79 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 61.41% เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 41.94 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 32.50 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 29.05% ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 348.86 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 308.34 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 13.14% สาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ รับรู้รายได้จากการเปิดให้บริการสาขาใหม่ในปีที่ผ่านมาเพิ่มจำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขาพาน และสาขาแม่ฟ้าหลวง ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ในไตรามาส 1/59 บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านสาขาอยู่ที่ 80% และรายได้จากการขายส่งผ่านสำนักงานใหญ่ 20% โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้จากการขายผ่านสาขาเป็นสำคัญ เนื่องจากมีกำไรขั้นต้นที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการขายส่ง และคาดว่า จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในช่วงต่อจากนี้ จะทำให้สัดส่วนการขายส่งลดลงจากนี้อีก
"จากการทำงานอย่างเต็มที่ของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ส่งผลให้ผลงานโค้งแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีการเติบโตอย่าน่าพอใจ เนื่องจากบริษัทฯ ขยายสาขาได้ตามเป้าหมาย รายได้จากสาขาเก่าโต 2.2% โดยจำนวนบิลที่ซื้อสินค้าของบริษัทฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้น แม้ยอดซื้อต่อบิลจะลดลง ส่วนหนึ่งเพราะการขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างอำเภอมากขึ้น ซึ่งยอดซื้อต่อบิลอาจจะน้อยกว่าผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในอ.เมือง ขณะที่รายได้จากการขายและค่าบริการของสาขาใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9% และมั่นใจผลงานทั้งปีนี้ บริษัทฯจะยังคงเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ สนับสนุนธุรกิจค้าปลีกของคนไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืนได้" นางอมร กล่าว