นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ทั้งรายได้และกำไรจะสูงกว่าไตรมาส 1/59 ที่มีรายได้อยู่ที่ 532 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 88.3 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการโอนโครงการในช่วงเดือน เม.ย.ก่อนสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้วเกือบ 2 พันล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งเป้าไว้ที่ 7.5 พันล้านบาท โดยในไตรมาส 2/59 บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ คือ โครงการ Notting Hill Sukhumvit-Praksa มูลค่าโครงการ 1.3 พันล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น จำนวน 980 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท กำหนดพรีเซลล์ในวันที่ 18 มิ.ย.59 โดยวางเป้าหมายยอดขายในวันพรีเซลไว้ที่ 30% ของมูลค่าโครงการ
"เรายังมั่นใจว่าปีนี้รายได้ก็ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท และยอดขายก็ยังจะทำตามได้ตามเป้าที่ 7.5 พันล้านบาท ตอนนี้ถ้าถึงปัจจุบันเราก็ทำยอดขายได้แล้วเกือบๆ 2 พันล้านบาท และเดี่ยวครึ่งปีหนังยอดขายก็น่าจะเข้ามาเยอะขึ้นเพราะเราจะมีเปิดโครงการอีก 5-6 โครงการมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งโครงการ Notthjng Hill สุขุมวิท-แพรกษา เป็นโครงการที่ 3 ของครึ่งปีแรก ก็รวมๆแล้วครึ่งปีแรกเราเปิดไป 3 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท"นายพีระพงศ์ กล่าว
กลยุทธ์ไนช่วงหลังจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์สิ้นสุดลง บริษัทจะหันมาเน้นขายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และโครงการเปิดใหม่ เพื่อให้มียอดขายเข้ามาเก็บไว้เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ส่วนการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินของลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัทนั้นปัจจุบันให้วางเงินดาวน์ในระดับ 12% ของราคาขายยูนิตที่ลูกค้าซื่อ เพราะเป็นการป้องกันการปฏิเสธสินเชื่อ และเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับการโอนโครงการของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 7-8%