นายสตีเว่น ซิว ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนทบทวนเป้าหมายรายได้-กำไรปีนี้ในช่วงไตรมาส 3/59 จากเดิมที่คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่เกิน 10% และกำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ยังรอดูความชัดเจนนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของการลงทุน
ขณะที่บริษัทมั่นใจยอดขายที่ดินปีนี้จะทำได้ 900-1,000 ไร่ จากปัจจุบันมียอดขายแล้วทั้งสิ้น 250 ไร่ โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมองว่าจะเป็นช่วงที่สามารถทำยอดขายได้มากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งคาดว่าจะขายที่ดินได้มากขึ้น ส่งผลให้ทั้งปีน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย
นายสตีเว่น กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย โดยเป็นลูกค้าจากประเทศจีน 1 ราย ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จ คาดว่าจะสามารถโอนและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 2/59 จำนวน 100 ไร่ และยังมีลูกค้าอื่น ๆ อีก แม้ว่าเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ภาพของการลงทุนยังดีอยู่ โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีนและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม การขายที่ดินแต่ละพื้นที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ไม่เท่ากัน จึงยังต้องรอดูยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะเป็นอย่างไร โดยพื้นที่ที่ อมตะซิตี้ มีมาร์จิ้นราว 50% และ Thai Chinese ราว 45-50% ถือว่าได้รับความนิยมสูงสุด ส่วนอมตะนคร มีมาร์จิ้น 65% แต่ราคาที่ดินได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 12% หรือมาอยู่ที่ 8.5 ล้านบาท/ไร่ จากเดิม 7.5 ล้านบาท/ไร่ ทำให้เป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจของลูกค้า และอมตะเวียดนาม ก็ยังมีวอลุ่มน้อย
"เรามองว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้ไม่น่าจะแย่ไปกว่าปีที่แล้ว โดยสิ้นปีนี้ก็น่าจะมียอดขายที่ดินได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวอยู่ แต่ก็ยังเห็นสัญญาณการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจีน-ญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ ก็ยังรอดูความชัดเจนนโยบายภาครัฐ"นายสตีเว่น กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 1,600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 50% โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากการขายที่ดิน 40% และสาธารณูปโภค 60%