นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ามีโอกาสปรับลงต่อ จากประเด็นความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั่วโลกที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้แย่กว่าที่คาดไว้ ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ต่างปรับตัวลดลง จึงเป็นปัจจัยกดดันหลักของวันนี้
ขณะที่ตลาดต่างประเทศเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบราว 0.1-0.3% ส่วนหนึ่งตอบรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงหลังจากสถานการณ์ไฟป่าในแคนาดาคลี่คลายลง และอิหร่านประกาศจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
สำหรับวันนี้ให้แนวรับ 1,370 จุดบวก/ลบ ส่วนแนวต้าน 1,384-1,388 จุด แนะถือเงินสดเพราะมองตลาดหุ้นเดือน พ.ค.-มิ.ย.เป็นช่วงปรับฐาน อาจทยอยเข้าสะสมหากดัชนีต่ำกว่า 1,370 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,492.93 จุด ลดลง 8.01 จุด(-0.05%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,765.78 จุด ลดลง 3.78 จุด(-0.08%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,048.04 จุด ลดลง 4.28 จุด (-0.21%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 18.99 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.19 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 49.56 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.34 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 5.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 14.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.07 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 พ.ค.59) 1,381.69 จุด ลดลง 4.17 จุด (-0.30%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 480.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 พ.ค.59) ปิดที่ 48.08 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 พ.ค.59) ที่ 5.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.68/70 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 35.65-35.80
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.9 ในเดือนพ.ค. จาก 53.0 ในเดือนเม.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรนั้นขยายตัวช้าลง
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 50.5 ลดลงจากระดับ 50.8 ในเดือนเม.ย.
- บีทีเอสซื้อรถไฟฟ้าล็อตใหญ่ 1.1 หมื่นล้าน "สมคิด"ยกเป็นตัวอย่างธุรกิจกล้าลงทุนในช่วงเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว พร้อมเร่งรฟม.เปิดประมูลรถไฟฟ้า3สายในเดือนมิ.ย.นี้ ด้าน"คีรี"ลั่นพร้อมประมูลทุกโครงการ เตรียมเงินลงทุน 2 แสนล้าน ขณะโบรกฯมองโอกาสสูงได้งานเดินรถเพิ่ม
- "คลัง"ยืนยันเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่า เพื่อนบ้าน ระบุ "มูลค่าส่งออก-นักท่องเที่ยว -การลงทุน" สะท้อนการฟื้นตัวต่อเนื่อง มั่นใจไตราส2 และ 3 เบิกจ่ายลงทุนภาครัฐกว่าแสนล้าน ขณะ "ศุภวุฒิ" ประเมิน "นำเข้า" หดตัวแรงหนุนยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดพุ่ง ดัน"จีดีพี" ปีนี้เติบโต
- สำนักงาน กสทช. เผย 17 ช่องทีวีดิจิทัล จ่ายเงินประมูลงวด 3 รวม 6.4 พันล้านบาท พบ 5 ช่อง "พีพีทีวี-ไทยรัฐทีวี-วัน-จีเอ็มเอ็ม25 -ไบร์ททีวี" ไม่จ่ายตามกำหนด รอหนังสือชี้แจงสาเหตุ ด้าน 5 ช่องระบุรอคำสั่ง ศาล หลังกำหนดเรียกไต่สวนคุ้มครองเลื่อนจ่ายงวด 3
- ศาลปกครองรับคำฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดินฟ้องปตท.คืนท่อก๊าซไม่ครบ"เทวินทร์"หนุนเปิดเวทีผู้เห็นต่างหารือ ยันปตท.ดำเนินการตามคำสั่งศาลครบถ้วน เดินหน้าธุรกิจชงบอร์ดชี้ชะตาธุรกิจถ่านหิน คาดบอร์ดไม่อนุมัติขายเหตุราคาต่ำ พร้อมชะลอลงทุนธุรกิจขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม พอใจหยุดขาดทุนเอ็นจีวีครั้งแรกในปีนี้
- "สบน."มั่นใจยอดขายพันธบัตรออมทรัพย์จะเต็มวงเงิน 2 หมื่นล้าน แม้ดอกเบี้ยไม่จูงใจมากนัก แต่มีกลุ่มนักลงทุนที่สนใจลงทุนพันธบัตรรัฐบาล เผยยอดขายตั้งแต่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.5 พันล้าน เฉลี่ยรุ่นอายุ 5 ปีจำนวน 3.1 พันล้านบาท รุ่นอายุ 10 ปี 2.4 พันล้าน
*หุ้นเด่นวันนี้
- BTS (เคจีไอ) เป้า Bloomberg Consensus 10.13 บาท วานนี้คณะกรรมการของ BTS อนุมัติให้ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทลูกซื้อขบวนรถไฟฟ้าแบบ 4 ตู้ จำนวน 46 ขบวน ในวงเงินรวมไม่เกิน 270 ล้านยูโร เราคิดว่า BTS น่าจะได้ประโยชน์จากโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ขณะที่สายสีเขียวส่วนขยายด้านใต้จะทดลองเปิดให้บริการ 1-2 สถานี (สำโรงและปู่เจ้าสมิงพราย) ช่วงปลายปี 59
- IVL (ซีไอเอ็มบี) แนะนำ"ซื้อ"เป้าหมาย 50 บาท คาดกำไรปีนี้เร่งตัวขึ้นและโตเฉลี่ย 33% ในปี 59-61 สนับสนุนโดยปริมาณขายโต 70% เป็น 11 ล้านตันในปี 61 EBITDA margin ดีขึ้นเท่าตัวเป็น 120 เหรียญ/ตันจากผลิตภัณฑ์ margin สูงอย่าง HVA และการซื้อกิจการนอกเอเชีย, โรงงาน Ethane cracker เปิดผลิตเป็นปัจจัยหนุนหลังปี 60 โดย ROE และ ROCE คาดเพิ่ม 2-3 เท่าช่วงปี 58-61 และกระแสเงินสดอิสระจะกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 3/59 ปรับประมาณการกำไรปี 59-61 ขึ้น 3-18%
- AOT(ธนชาต)"ซื้อ"พื้นฐาน 460 บ.รายได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นหลังเปิดสนามบินดอนเมือง Terminal 2 ขณะที่จำนวนผู้โดยสาร +12.8% y-y ใน 1H16