นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคจะรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับสองในช่วง 3 ปีนี้ โดยสิ้นไตรมาส 1 /59 ดีแทคมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 28%
ขณะที่รายได้ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวหรืออาจเติบโตเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 8.8 หมื่นล้านบาท เทียบกับอุตสาหรรมโทรคมนาคมภาพรวมคาดเติบโตราว 3% และความสามารถการทำกำไรของกลุ่มโทรคมนาคมลดลงจากการแข่งขันรุนแรง ที่ปีนี้เห็นการแจกมือถือฟรีทุกค่าย ซึ่งดีแทคก็ได้ออกแคมเปญแจกมือถือ 3G เปลี่ยนจาก 2G และยังมีค่าใช้จ่ายจากสัญญาสัมปทาน
ณ สิ้นเดือน มี.ค.59 มีจำนวนลูกค้า 25.5 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้า 4G จำนวน 3.1 ล้านเลขหมาย ลูกค้า 3G จำนวน 20 ล้านเลขหมาย และลูกค้า 2G จำนวน 2.4 ล้านเลขหมาย
นายลาร์ส กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุน 7 หมื่นล้านบาทส่วนใหญ่นำไปขยายโครงข่าย 4G โดยในปลายเดือน มิ.ย.จะนำคลื่นความถี่ 1800 MHz อีก 5 MHz รวมเป็น 20 MHz มาขยายโครงข่ายบริการ Super 4 G
สำหรับสาเหตุที่ดีเทคไม่เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz รอบสอง เพราะมีคลื่นเพียงพอรองรับการให้บริการลูกค้า ประกอบกับบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 25 MHz ของ บมจ.กสท.โทรคมนาคม ที่บริษัทไม่ได้ใช้งาน และ คลื่นความถี่ 850 MHz อีกจำนวน 10 MHz
ปัจจุบัน ดีแทคมีจำนวนคลื่นความถี่ในมือรวม 50 MHz คือ คลื่น 1800 MHz จำนวน 25MHz, คลื่น 2100 MHz จำนวน 15 MHz และ คลื่น 850 MHz จำนวน 10 MHz ซึ่งคลื่นทั้งหมดเพียงพอต่อการให้บริการทั้งระบบ 3G และ 4G
อย่างไรก็ตาม สำหรับคลื่น 1800 MHz ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 61 นั้นทาง ดีแทค มีเจตจำนงที่จะเข้าประมูลเพื่อให้ได้คลื่นความถี่ จึงอยากเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้วางโรดแมพการประมูลคลื่นความถี่เพื่อรองรับธุรกิจดิจิทัลในประเทศไทยในระยะยาว