นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่ากำไรทั้งปีจะมากกว่าปีก่อน 300.55 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาส 1/59 บริษัทฯจะมีกำไรที่ลดลงมาที่ 67.92 ล้านบาท จากไตรมาส 1/58 ที่มีกำไรสุทธิ 80.13 ล้านบาท ซี่งเป็นผลมาจากการใช้งบการตลาดสูงถึง 19% ของยอดขายรวม ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าจะสามารถควบคุมต้นทุนดังกล่าวให้อยู่ในระดับเฉลี่ยไม่เกิน 17% ของอยอดขายรวมในปีนี้ ขณะเดียวกัน การย้ายกำลังการผลิตจากโรงงานบางชันไปยังโรงงานแห่งใหม่ที่คลอง 13 ช่วยให้ค่าใช้จ่าในการบริหารจัดการลดลง และสายการผลิตใหม่ช่วยสนับสนุนขีดความสามารถในการทำกำไรต่อหน่วยให้ดีขึ้น เนื่องจากเครื่องจักรที่นำเข้ามาติดตั้งได้เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ช่วยให้เกิด Economy of Scale จากการผลิตสินค้าจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
"แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมากำไรของเราตะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เรายังมั่นใจว่าทั้งปีเรายังเชื่อว่ากำไรจะเติบโต ซึ่งเราใช้กลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่าเฉลี่ยทั้งปีให้อยู่ที่ 17% ของยอดขายรวม และโรงงานใหม่ที่เริ่มผลิตในปีก่อนจะช่วยต้นทุนในปีนี้ให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน"นางสาวปิยจัต กล่าว
สำหรับรายได้ปีนี้บริษัทฯยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่เติบโตราว 15% จากปีก่อนทำได้ 2.55 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาผลประกอบการในต่างประเทศยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้บริษัทเน้นทำตลาดใน 5 ประเทศ อาทิ จีน และอินโดนีเซีย ที่เป็นประเทศค่อนข้างใหญ่และยังมีแนวโน้มการเติบโตอีกมาก ส่วนตลาดในประเทศคงจะเติบโตไม่มากเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนยังไม่ได้ปรับตัวดีขึ้น
"ปีนี้เราเน้นการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันกำลังซื้อในประเทศยังชะลอตัวอยู่ ทั้งนี้เราได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา 6 รสชาติ และทั้งปีคาดว่าจะมีการเปิดตัวรสชาติใหม่รวมไม่เกิน 15 รสชาติ ซึ่งการเปิดตัวรสชาติใหม่ และการบุกต่างประเทศอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้รายได้เติบโตไปตามเป้าหมาย"นางสาวปิยจิต กล่าว
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแผนขยายคลังสินค้าใหม่ในพื้นที่โรงงานคลอง 13 เพื่อรองรับยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในช่วงปลายปีนี้
นางสาวปิยจัต ยังกล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/59 ว่า รายได้และกำไร มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการขยายตลาดต่างประทศเป็นหลัก และลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดลงหลังผ่านช่วงหน้าร้อนมาแล้ว