TPCH คาดผลงาน Q2/59 โตต่อเนื่อง,ลุ้นอัตรากำไรสุทธิเพิ่มหากรัฐเปลี่ยนรับซื้อไฟฟ้า“โรงไฟฟ้าช้างแรก"เป็น FiT

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 26, 2016 12:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะออกมาในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เพราะได้รับปัจจัยบวกจากโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย .โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) กำลังการผลิตเสนอขายจำนวน 9.2 เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) กำลังการผลิตเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ที่เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อยแล้วรวมจำนวน 25.2 เมกะวัตต์

ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่จำนวน 7 แห่ง กำลังการผลิต 106 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วจำนวน 30 เมกะวัตต์ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 30 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 46 เมกะวัตต์ จึงมั่นใจว่าแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ได้ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้าจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอนและในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟ (COD) ได้อีก 1 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน

อย่างไรก็ตาม หากนโยบายภาครัฐอนุมัติให้เปลี่ยนการรับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จากระบบ Adder เป็นระบบ Feed in Tariff (FiT) จะส่งผลให้บริษัทฯ ได้ค่าไฟเพิ่มขึ้น หน่วยละประมาณ 1.34 บาท หรือส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านบาท และทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 100% เปรียบเสมือนได้โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแห่งอีกด้วย

ขณะที่ปีนี้บริษัทฯ ยังคงคาดว่ารายได้จะเติบโต 150% จากปี 2558 ที่ทำได้ 304.90 ล้านบาท หลังไตรมาส 1/59 ผลประกอบการออกมาในทิศทางที่ดี โดยมีรายได้รวม 132.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.39 ล้านบาท หรือ 124.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.94 ล้านบาท หรือ 2,217% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ