นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) กล่าวว่า การพัฒนาโครงการพลังงานลมเมาท์ เอเมอรัลด์ (Mount Emerald) กำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการราว 380 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 9.5 พันล้านบาท ที่ล่าสุดได้รับคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ Ergon Energy Queensland (EEQ) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าของรัฐควีนส์แลนด์นั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายฐานธุรกิจระยะยาวของกลุ่มบริษัทในออสเตรเลียอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ โครงการเมาท์ เอเมอรัลด์ เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RAC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และบริษัท Port Barjool Pty Ltd. โดยถือหุ้นร่วมกันฝ่ายละ 50% เมื่อวันที่ 27 พ.ค.โครงการดังกล่าวได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EEQ อายุสัญญาเริ่มในเดือน ก.ย.61 สิ้นสุดในเดือน ธ.ค.73
โครงการดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าโครงการตามสัดส่วนการลงทุนของบริษัทประมาณ 160 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 4 พันล้านบาท และจากการเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มบริษัท โดยใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีเริ่มในปีนี้ ซึ่งจะติดตั้งกังหันลมจำนวน 53 ตัว
โครงการเมาท์ เอเมอรัลด์ ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ของรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในรัฐควีนส์แลนด์เพิ่มขึ้นถึง 15 เท่า จากปัจจุบันที่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเพียงประมาณ 12 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานลมวินดี้ ฮิลล์ ของ RAC
โครงการพลังงานลมแห่งนี้เป็นการลงทุนแห่งที่ 4 ของราช-ออสเตรเลีย ซึ่งทำให้กำลังผลิตจากพลังงานลมตามสัดส่วนการถือหุ้น เพิ่มขึ้นอีก 72 เมกะวัตต์ เป็น 126 เมกะวัตต์ และยังส่งผลให้กำลังผลิตรวมของราช-ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นเป็น 581.52 เมกะวัตต์
"บริษัทเชื่อมั่นว่าความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายฐานธุรกิจระยะยาวของกลุ่มบริษัทในออสเตรเลียอย่างจริงจัง เพราะยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนา ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้ก้าวหน้าและบรรลุผลสำเร็จเช่นเดียวกับโครงการเมาท์ เอเมอรัลด์ต่อไป"นายรัมย์ กล่าว
ปัจจุบัน RAC ลงทุนในโครงการพลังงานลม 3 แห่ง คือ โครงการวินดี้ ฮิลล์ ในรัฐควีนส์แลนด์ กำลังผลิตตามการถือหุ้น 9.6 เมกะวัตต์ โครงการทูร่าในรัฐวิคตอเรีย กำลังผลิตตามการถือหุ้น 16.8 เมกะวัตต์ และโครงการสตาร์ฟิช ฮิลล์ ในรัฐเซาท์ ออสเตรเลีย กำลังผลิตตามการถือหุ้น 27.6 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอีก 3 แห่ง กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 455.52 เมกะวัตต์ ความสำเร็จของโครงการเมาท์ เอเมอรัลด์ ครั้งนี้ ส่งผลให้กำลังผลิตรวมของบริษัทเติบโตเป็น 6,879 เมกะวัตต์