นายอมร จุฬาลักษณานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) เปิดเผยว่า ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Rating) ของ TREIT ที่ระดับ A-(tha) ด้วยแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ส่งผลให้ TREIT เป็นกองทรัสต์แรกของประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิต เรทติ้ง
อันดับเครดิตที่ TREIT ได้รับสะท้อนถึงความมั่นคงและความสม่ำเสมอของรายได้จากสัญญาเช่าของอสังหาริมทรัพย์ที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งเป็นคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าระดับพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานการออกแบบและการก่อสร้างสูง อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่ทำเลที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ โดยกระจายตัวอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์พาร์คชั้นนำของประเทศกว่า 16 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง อยู่บนถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
"การจัดอันดับความน่าเชื่อถือของ TREIT นับเป็นการจัดอันดับความน่าเชื่อถือบนกองทรัสต์ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนด้วยหุ้นกู้ผ่านตลาดตราสารหนี้ ซึ่งมีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้ยืมจากธนาคาร และสามารถเพิ่มศักยภาพการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้"นายอมรกล่าว
การเข้าถึงตลาดตราสารหนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์แก่ TREIT ในระยะยาว เพราะจะทำให้ TREIT มีทางเลือกในการกู้ยืมเพื่อการลงทุนเพิ่มเติมหรือชำระหนี้เดิมด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ และถือเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดหาเงินทุนจากแหล่งเงินทุนที่มีศักยภาพ และบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา TREIT มีมูลค่าสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 96% โดยสามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนเฉลี่ยแก่ ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้อย่างต่อเนื่องตามที่ตั้งเป้าไว้ ที่ 7.79% ต่อปี
ด้านนายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ผู้จัดการทั่วไป และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ TMAN เปิดเผยว่า แผนการเติบโตของ TREIT ไม่ได้จำกัดแค่การเพิ่มทุนจากทรัพย์สินของกลุ่มไทคอนเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างไปถึงทรัพย์สินที่อยู่นอกกลุ่มด้วยเช่นกัน เพราะบริษัทเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ที่มีการบริหารเชิงรุกที่มองหาโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงทั้งในประเทศและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะแรกนี้ โอกาสในการลงทุนของ TREIT คงมุ่งเน้นอยู่ในทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทยเป็นหลักก่อน
ภาพรวมแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยังอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ด้วยศักยภาพของอุตสาหกรรมการผลิตของไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และความได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้งของประเทศซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของอาเซียน ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนและขยายธุรกิจในไทยเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตและส่งออก
ทั้งนี้ ปัจจุบัน TREIT ลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าของกลุ่มไทคอน รวม 98 ยูนิต พื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 369,705 ตารางเมตร บนที่ดินรวม 503 ไร่ แบ่งเป็นคลังสินค้าจำนวน 71 ยูนิต พื้นที่ให้เช่า 293,805 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 79% ส่วนอีก 27 ยูนิต เป็นโรงงาน พื้นที่ให้เช่า 75,900 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 21% และมีโครงสร้างของทรัพย์สินที่ลงทุนเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์(Freehold) ประมาณ 56% และเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ประมาณ 44% โดยผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความหลากหลากในส่วนของอุตสาหกรรมและธุรกิจของผู้เช่า อาทิเช่น โลจิสติกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิคส์ เป็นต้น