นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการในธุรกิจค้าปลีกและเทคโนโลยี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ได้วางงบลงทุนราว 100 ล้านบาทเพื่อเข้ามาต่อยอดธุรกิจหลัก ภายใต้นโยบายที่จะต้องมีผลตอบแทนการลงทุน 12% ขึ้นไป
ส่วนการลงทุนอื่นๆ จะใช้ในส่วนของ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เพื่อเข้าซื้อหนี้มาบริหารราว 3,000 ล้านบาท, บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) จำนวน 600 ล้านบาท ลงทุนในโครงการแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้ และของ JMART วางไว้ 300 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาเพิ่ม
ขณะที่ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตได้ราว 30% จากปีก่อนทำได้ 9,510.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็น่าจะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 322.64 ล้านบาท ตามการเติบโตของบริษัทในเครือ ทั้ง JMART, JMT, J และ SINGER โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 20-30% และอัตรากำไรสุทธิที่ 20%
สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2/59 คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีกว่าไตรมาสแรกและดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น โดยคาดจะเพิ่มขึ้นราว 20% ซึ่งภาพรวมตลาดมือถือยังคงเติบโตดีอยู่