หุ้น BCH ราคาพุ่งขึ้น 6.42% มาอยู่ที่ 11.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 120.33 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.48 น. โดยเปิดตลาดที่ 11.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 11.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11.20 บาท
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ปรับราคาพื้นฐานปี 59 เป็น 12.50 บาทต่อหุ้น แม้กำไรสุทธิไตรมาส 1/59 จะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่จากแนวโน้มของโรงพยาบาลในเครืออื่น ๆ และโรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (WMC) ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้าใช้บริการสูงขึ้นทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPDป คาดจะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิของบริษัทมีอัตราการขยายตัวสูง
ทั้งนี้ มองบวกต่อผลการเนินงานของ WMC เป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ทางโรงพยาบาลมีการเซ็นสัญญาร่วมกับรัฐบาลโอมานในการเลือก WMC เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ให้พลเมืองภายในประเทศเข้าพักรักษา และให้บริการ Exclusive กับลูกค้าชาวจีนตั้งแต่ช่วงปลายปี 58 ส่งผลให้ในไตรมาสที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติทั้ง OPD และ IPD เข้ามาใช้บริการสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนุนให้สัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติขึ้นมาแตะที่ 54.0% จาก 27.0% ในไตรมาส 1/58 โดยรายได้เฉลี่ย OPD (บาท/คน) เพิ่มขึ้น 22.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาที่ 3.2 พันบาท และรายได้เฉลี่ย IPD (บาท/ครั้ง/เตียง) สูงขึ้นถึง 46.3% จากงวดปีก่อนที่ 3.3 หมื่นบาท
โดยทางโรงพยาบาลมีการเซ็นสัญญาใหม่เพิ่มเติมกับประเทศกาตาร์และยังมีแนวโน้มจะเซ็นสัญญาใหม่ร่วมกันกับประเทศอื่น ๆ อีก อาทิ รัสเซีย ออสเตรเลีย รวมทั้งเปิดให้บริการเพิ่มเติมแบบ Executive กับลูกค้าชาวจีนรายอื่นๆ คาดจะช่วยให้โรงพยาบาลดังกล่าวเข้าสู่จุดคุ้มทุนได้เร็วขึ้น โดย EBITDA Margins คาดจะพลิกกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 3/59 นี้
เบื้องต้นคาดหมายรายได้จากกิจการโรงพยาบาลในไตรมาส 2/59 จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และงวดปีก่อน จากแนวโน้มโรงพยาบาล WMC ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าชาวจีนกลับเข้ามาใช้บริการเป็นปกติ ตลอดจนผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลในเครืออื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ที่ทางโรงพยาบาลมีการอัพเกรดหรือเพิ่มเทคโนโลยีการรักษาใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มจำนวนแพทย์เฉพาะทาง ส่งผลให้มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการอย่างหนาแน่น โดยทางโรงพยาบาลยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนห้องตรวจ OPD อีกราว 20 ห้องตรวจ ในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์สระบุรี และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ฉะเชิงเทราใน ไตรมาส 3/59 นี้ เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อีกทั้งมีแผนจะเปิดศูนย์โรคหัวใจเฉพาะทางในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย บวกกับปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.59 เป็นต้นไป คาดจะช่วยหนุนให้รายได้จากกิจการโรงพยาบาลในช่วงครึ่งปีหลัง
พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 59 ขึ้นมาเล็กน้อยเป็น 683 ล้านบาท (จากเดิมคาด 647 ล้านบาท) โต 29.5%จากงวดปีก่อน จากคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31.7% จาก 30.8% ในปี 58