(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อาจเจอแรงขายก่อนแต่ภาพรวมยังผันผวนเล็งกลุ่มแบงก์-สื่อสารช่วยหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 2, 2016 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเผชิญแรงขายในช่วงแรกก่อน แต่โดยรวมตลาดฯคงจะผันผวน ซึ่งถ้าดัชนีฯสามารถยืนได้ที่ 1,410 จุด ตลาดฯก็ยังดูดี เพราะมีลุ้นกลับขึ้นไปได้อีก โดยหุ้นในกลุ่มแบงก์น่าสนใจลงทุน เนื่องจากเวลานี้ดูเหมือนว่าจะมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์ในตลาดทั่วโลก หลังจากที่มองกันว่าดอกเบี้ยขาลงใกล้จบแล้ว ซึ่งก็น่าจะทำให้พื้นฐานกลับตัวได้ จึงมีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามา นอกจากนี้ยังมีหุ้นในกลุ่มสื่อสารอีกที่น่าสนใจลงทุน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงในระยะสั้น ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้บ้าง จึงทำให้ไม่กังวล อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อดูทิศทางราคาน้ำมัน และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ด้วย ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะมีขึ้นในกลางเดือนมิ.ย.

พร้อมให้แนวรับ 1,410-1,395 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,789.67 จุด เพิ่มขึ้น 2.47 จุด (+0.01%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,952.25 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด (+0.08%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด (+0.11%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 138.47 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 8.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 1.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.14 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.39 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.67 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 มิ.ย.59) 1,415.76 จุด ลดลง 8.52 จุด (-0.60%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 453.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 มิ.ย.59) ปิดที่ 49.01 ดอลลาร์/
บาร์เรล ขยับลง 9 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 มิ.ย.59) ที่ 5.13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.67/69 ตลาดจับตาผลประชุม ECB คืนนี้-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯพรุ่งนี้
  • กทค. เคาะเรียกค่าเสียหาย"แจส"อีก 199.42 ล้านบาท ขีดเส้นจ่ายภายใน 16 มิ.ย.นี้ เผยรวมแล้วต้องจ่ายเป็นเงินรวม 843.42 ล้านบาทชี้ช่อง"เอดับบลิวเอ็น"ร้องเรียกค่าเสียโอกาสได้ ส่วนการยึดใบอนุญาตธุรกิจอื่นของกลุ่มจัสมินทำไม่ได้ เหตุไม่มีกฎหมายเอาผิด ยันหากแจสไม่พอใจ สามารถอุทธรณ์ต่อ กสทช. แต่หากไม่จ่ายเจอกันที่ ศาลแพ่ง
  • ปตท.สผ.ยืนยันพร้อมประมูลแหล่งบงกชที่จะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2566 ส่วนแหล่งเอราวัณ ต้องรอเชฟรอนจะยื่นประมูลหรือไม่ หากถอนตัว เสียบแทนทันที ยันพร้อมที่จะซื้อกิจการแหล่งปิโตรเลียมในภูมิภาคนี้ที่ต่างชาติเริ่มทยอยขายออกมาด้วย
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ความผันผวนทางการเงินเกิดขึ้นในปีนี้และในปีหน้า ดังนั้น ธปท.จะใช้นโยบายการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่น เพื่อดูแลค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวสอดคล้องไปกับสกุลเงินในภูมิภาค ในกรณีที่ค่าเงินผันผวนรุนแรง และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ธปท.จะใช้เครื่องมือช่วยลดความผันผวนในบางช่วงเวลา
  • กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน พ.ค. 2559 เท่ากับ 107.02 สูงขึ้น 0.46% เทียบกับเดือน พ.ค. 2558
  • เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ปี 2548 ไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยโดยมีประชากรอายุเกิน 60 ปีอยู่ที่ 14% ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าปี 2574 หรืออีก 15 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด มีผู้สูงอายุเกิน 60 ปีมากว่า 28% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มีนัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศอย่างมาก เพราะกำลังแรงงานที่ลดลงจะส่งผลกระทบในมิติระดับมหภาคและจะเป็นแรงต้านที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CK (ไอร่า) เป้า 32.75 บาท รอลงนามงานส่วนเพิ่มไซยะบุรี 19,400 ล้านบาท เกิดจากการปรับแบบเพิ่มจาก Original Design คาดเซ็นหลังเจรจา สปป.ลาวใน Q2/59 ทำให้ Backlog เพิ่มจาก 77,554 ล้านบาท เป็น 96,964 ล้านบาท และที่สำคัญงานมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาทเป็นงานที่ทำเสร็จแล้ว คาดหลังเซ็น CK มีโอกาสรับรู้รายได้ทั้งจำนวน 14,000 ล้านบาททันที ซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตโดดเด่น และผลการดำเนินงานดีกว่าประมาณการเดิม
  • BA (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 28.25 บาท ปี 59-60 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 28.9% หลังทำข้อตกลง codeshare กับ 8 สายการบินพันธมิตรใหม่ หนุนให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น บวกกับ ปีนี้มีแผนรับเครื่องบินอีก 5 ลำเป็น 36 ลำ และมี Upside 16%
  • CPF (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 33 บาท ราคาหมูที่ปรับสูงขึ้นในภูมิภาค และธุรกิจกุ้งฟื้นตัว หนุนกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.7 หมื่นล้าน
  • CPN (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 68 บาท คาดการณ์การเติบโต ปี 59-61 ที่ 18.3% โดย CPN ไปโรดโชว์ที่กัวลาลัมเปอร์ผู้บริหารคาดว่าจะเปิดห้างใหม่ใน 3Q16 และมองการขยายไปยังเวียดนามและอินโดนีเซีย ทั้งนี้ จำนวนคนเข้าห้างเติบโต 3%yoy ในเดือน ม.ค.-เม.ย.59 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตนักท่องเที่ยว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ