SCI รอเซ็นรับงานอีกกว่าหมื่นลบ.ในลาวดันปี 60-61 โตพุ่ง,มั่นใจ Q2/59 พลิกกำไร-ทั้งปีใกล้ปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 3, 2016 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค (SCI) ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่าจะเซ็นสัญญารับงานส่วนที่เหลือใน สปป.ลาว คือ โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้า ระยะที่ 2 (PDSR phase ll) มูลค่าราว 2,345 ล้านบาท และโครงการการรับเหมาติดตั้งระบบส่งไฟฟ้าแรงสูง 10,500 ล้านบาท รวมมูลค่าราว 13,000 ล้านบาทได้อย่างช้าภายในต้นไตรมาส 3/59 นี้

"ทางรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวเขาต้องการผู้ที่มีความสามารถในการเข้าไปรับงานทั้งงานก่อสร้าง และแหล่งเงินทุนที่จะรองรับการขยายโครงการต่างๆ ซึ่งเราก็มีความสามารถในด้านนั้น และงานส่วนในการก่อสร้างเราก็ใช้ผู้รับเหมาช่วง หรือที่เรียกว่า Subcontractor จากญี่ปุ่นอย่าง fuji kura ที่มีความสามารถในการรับงานขนาดใหญ่เข้ามา

ในส่วนของเงินที่ใช้หมุนเวียนในโครงการนั้นก็มีเพียงการทำแบงค์การันตี และการดำเนินโครงการเองก็ต้องรอเงินจากผู้ว่าจ้างแล้วนำประกระจายให้แก่ผู้รับเหมาแล้วงานถึงจะเริ่มขึ้น ทำให้เราสามารถรับงานได้มากและไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ ซึ่งแบบนี้ทำให้เรามีความสามารถรับงานในมูลค่ามากกว่านี้ก็ยังได้ ซึ่งในส่วนของผลตอบแทนเองเราก็ยังได้เข้ามาเท่าเดิมด้วยเพราะเรากำหนดไว้แล้ว"นายเกรียงไกร กล่าว

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เซ็นสัญญารับงานโครงการก่อสร้างสายส่งและสถานีไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ที่ สปป.ลาว มูลค่างาน 416 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.45 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทเซ็นสัญญากับการไฟฟ้าลาว (EDL) เมื่อวันที่ 17 พ.ค.59 ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป โครงการดังกล่าวทยอยรับรู้เป็นระยะเวลา 46 เดือน

นายเกรียงไกร กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการจะพลิกกับมาเป็นกำไรในไตรมาส 2/59 หลังจากไตรมาส 1/59 พลิกเป็นขาดทุนราว 4.8 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวมาสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้กำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไร 187.05 ล้านบาท

ขณะนี้แนวโน้มยอดขายในธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้สวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟและอุปกรณ์รองรับผลิตและจำหน่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และโครงสร้างเหล็กชุบกัลวาไนซ์และบริการชุบสังกะสีเริ่มมีงานเข้ามามากขึ้น อีกทั้งบริษัทจะรับรู้รายได้จากงานในลาวเข้ามาบางส่วน

จากนั้นในปีหน้าผลประกอบการจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากรายได้จากโครงการที่ได้จากทางรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) จะใช้ระยะเวลาการรับรู้รายได้ราว 48 เดือน หรือในช่วงปี 60-61

ขณะที่บริษัทยังมีโครงการลงทุนในส่วนอื่น ๆ โดยโครงการโรงงานผลิตเสาส่งแรงสูงและเสาสื่อสารในพม่าคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ต.ค.-พ.ย.59 นี้ ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 95% และที่เหลืออีก 5% เป็นพันธมิตรท้องถิ่น มูลค่าการลงทุนรวม 16 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างและสามารถผลิตได้ภายใน 18 เดือน กำลังการผลิตทั้งหมด 7,500 ตัน/ปี

ส่วนบริษัท ที ยูทิลิตี้ส์ จำกัด (TU) ที่เป็นการร่วมทุนกับ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) นั้นปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุน และผลตอบแทนที่มีความเหมาะสมในโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโครงการให้บริการด้านสาธารณูปโภคที่ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรเนื่องจากโครงการมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และต้องมีการศึกษาให้ดี

"ปีนี้หน้าผลประกอบการของเราจะเป็นปีที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญแน่ เพราะเราได้เซ็นสัญญาก่อสร้างมาจากรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวแล้ว และคงจะมาเริ่มรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แต่ปี 60-61 จะเข้ามาค่อนข้างมาก ในส่วนของ TU เองเราก็มีการศึกษา และอีกไม่นานนี้คงจะมีความชัดเจนในการลงทุนเกิดขึ้นบ้างแล้ว"นายเกรียงไกร กล่าว

สำหรับบริษัทร่วมทุนยใหม่ภายใต้ ชื่อ บริษัท เอสซีไอ เอ็นเนซิส จำกัด (SE) ที่จะดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายตู้ควบคุมไฟฟ้าสำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และรับเหมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คาดว่าจะจัดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ และคาดว่าจะเริ่มรับงานได้ทันที "บริษัทฯนี้เราก่อตั้งขึ้นร่วมกับ Tokyo Energy & System ซึ่งถือเป็นผู้รับเหมาโรงไฟฟ้ารายใหญ่ เป็นบริษัทชั้นนำ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น ซึ่งเราจัดตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะรับงานเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆทั้งในไทย และต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตหาก TU ได้โครงการเข้ามาเราก็จะเอามาช่วยในเรื่องของการก่อสร้างด้วย"นายเกรียงไกร กล่าว

นายเกรียงไกร เปิดเผยอีกว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทฯก็ได้เดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างประเทศ (โรดโชว์)ที่อังกฤษ ซึ่งมีกองทุนมารับฟังข้อมูลทั้งหมด 5 กองทุน เนื่องจากมีความสนใจที่บริษัทได้ขยายงานไปทั้งในลาวและพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่ยังไม่มีการเปิดให้เข้าไปลงทุนโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีแผนจะขายหุ้นออกไปเพิ่มเติมอีก

นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปีบริษัทฯ ก็อาจจะมีการเดินทางไปโรดโชว์เพิ่ทเติมในประเทศสหรัฐและเยอรมันด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ