(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค เล็งกระแสเงินทุนไหลเข้าหลังคาดเฟดไม่รีบขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 6, 2016 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาค่อนข้างแย่ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง สวนทางเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จึงมีความคาดหวังว่าจะมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามา

อย่างไรก็ดีให้ติดตามการปาฐกถาพิเศษของประธานเฟดในคืนนี้ เพื่อรอดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440-1,450 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,807.06 จุด ลดลง 31.50 จุด (-0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,942.52 จุด ลดลง 28.84 จุด (-0.58%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.13 จุด ลดลง 6.13 จุด (-0.29%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 268.91 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 23.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 3.08 จุด

ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันรำลึกถึงวีรชนแห่งชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 มิ.ย.59) 1,436.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด (+0.87%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,579.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 มิ.ย.59) ปิดที่ 48.62 ดอลลาร์/
บาร์เรล ปรับตัวลง 55 เซนต์ หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 มิ.ย.59) ที่ 5.03 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.38 คาดแข็งค่าหลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯกดดอลล์อ่อน
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ คาดว่าจะมีการนำร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เข้าสู่การพิจารณาหลังจากกระทรวงการคลังได้เสนอให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เห็นชอบแล้ว
  • วีซ่าเผยผลสำรวจการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรดันจีดีพีไทยเพิ่มขึ้น 1.13 แสนล้านบาท ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในทวีปเอเชีย หนุนนโยบายรัฐช่วยพัฒนาระบบให้เปิดกว้าง
  • กกพ.จับตาบาทอ่อน-น้ำมันโลกขึ้น-เปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียม 2 แห่งที่จะหมดอายุสัมปทานจะทำให้ไม่เกิดความต่อเนื่อง จนต้องนำเข้าแอลเอ็นจี ดันค่าไฟพุ่ง
  • รฟม.เปิดขายซองประกวดราคารถไฟฟ้า 3 สี ชมพู-เหลือง-ส้ม เดือน มิ.ย.นี้ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท มั่นใจสิ้นปีได้ตัวผู้รับเหมา เผยขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแหล่งเงินกู้ ด้านแอร์พอร์ตลิงก์เดินหน้าปรับปรุงบริการ โละทิ้งรถเอ็กซ์เพรสไลน์ หันใช้รถธรรมดาแทน หวังรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
  • นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เผยว่าปัจจุบันการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้นทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ดังนั้นมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม (มพส.) ได้ศึกษาผลกระทบการท่องเที่ยวที่มีต่อความต้องการใช้พลังงานทั้งด้านการใช้จ่ายและการใช้พลังงานของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพักค้างในไทย พบว่าปี 58 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย 29.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.4% เมื่อเทียบกับปี 57 และมีการใช้จ่าย 1,447,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% เป็นการใช้จ่ายค่าโรงแรมที่พัก 26.2% ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 22.5% ค่ารถโดยสารและการเดินทาง 5.3% เป็นต้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • VTE-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.วินเทจ วิศวกรรม (VTE)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 103,742,477 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 8.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 13 พฤษภาคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 ก.ค. 2561 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 12 พ.ค. 2562
  • TASCO (เคจีไอ) เป้า 46.2 บาท ยังคงประเมินแนวโน้มอัตรากำไรในไตรมาสที่เหลือของปียังเด่น แม้ราคาน้ำมันขณะนี้ปรับสูงขึ้น แต่ด้วยสัญญาซื้อขายน้ำมันในราคาพิเศษกับคู่ค้า ในขณะที่ราคาขายสินค้า (โดยเฉพาะสินค้าเกรดพรี่เมี่ยม) ที่ยังยืนสูงตามราคาน้ำมัน และ PE ปีนี้ต่ำเพียง 7.5 เท่า พร้อมประเมินรูปแบบราคา Sideway บีบกรอบแคบมีโอกาสรีบาวด์หากดีดพ้นแนวต้าน 25 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 26.5 บาท และ 27.5 บาท (Stop loss 24 บาท) และรูปแบบราคารายสัปดาห์ MACD Bullish divergence
  • KBANK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อลงทุน"เป้า 194 บาท ยังเป็นธนาคารที่ชอบที่สุดในกลุ่ม แต่ต้องฝากความหวังไว้ที่การลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐในครึ่งปีหลังที่จะกระตุ้นสินเชื่อ ส่วนกำไร 2Q59 จะลดลงทั้ง Q-Q, Y-Y จาก NIM ที่ลดลงและการตั้งสำรองสูง เป็นผลกระทบทั้งอุตสาหกรรม แต่จุดเด่นของ KBANK คือ NIM, ROE ที่สูงสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่
  • CK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 40 บาท การได้งานเพิ่มในโครงการไซยะบุรีอีก 1.9 หมื่นล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท ทำให้ Backlog ของ CK เพิ่มเป็น 9.5 หมื่นล้านบาท และยังมีการกลับรายการดอกเบี้ยจ่ายจากไซยะบุรีเข้ามาในงบฯไตรมาสละ 200 ล้านบาท เป็นบวกต่อกำไรถึงแม้จะเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสดก็ตาม
  • KCE (โกลเบล็ก) เป้า 91 บาท ปี 59 คาดกำไรก้าวกระโดดเป็น 2,792 ล้านบาท +24%YoY จากการเปิดใช้โรงงานใหม่เฟส 2 ตั้งแต่ 1Q59 ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและสามารถผลิตสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้ประโยชน์จาก PCB ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตและ Demand สูง เนื่องจากเปลี่ยนมาใช้ระบบ Electronic แทนระดับ Mechanic ทั้งนี้ KCE มีลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ราว 70% พร้อมเตรียมลงทุน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ เดินเครื่องโรงงานเฟส 3 ในช่วง 3Q59 รวมทั้งคาดเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่กลางเดือนมิ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ