นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) กล่าวว่า บริษัทฯคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่า 9% จากปีก่อนทำได้ 3,359.64 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็จะทำสิถิติสูงสุดต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีกำไร 957.69 ล้านบาท ตามปริมาณการเติมน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะเติบโต 7-8% จากปีก่อนที่มีปริมาณการเติมน้ำมัน 5,283 ล้านลิตร และจากการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 60% และอัตรากำไรสุทธิที่ 35%
ทั้งนี้ บริษัทยังมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 น่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจ
สำหรับการลงทุนของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BAFS ถือหุ้นในสัดส่วน 75% ที่ได้มีการลงทุนในโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นโครงการลงทุนในระยะ 3 ปี มูลค่า 7,500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและน่าจะแล้วเสร็จได้ในปี 62 ซึ่งจะส่งผลให้จะมีรายได้จากท่อขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น หรือมีสัดส่วนเป็น 35% และที่เหลือมาจากการให้บริการการเติมน้ำมันและจัดเก็บน้ำมันในท่าอากาศยาน
ขณะที่ BAFS ยังมีแผนลงทุนก่อสร้างระบบขนส่งน้ำมันทางท่อใต้ดินในท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มเติม เพื่อรองรับการขยายหลุมจอดเครื่องบิน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการรออนุมัติของคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ซึ่งคาดว่าจะได้รับพิจารณาอนุมัติภายในปีนี้ ขณะเดียวกันระบบขนส่งน้ำมันทางท่อสุวรรณภูมิเฟส 2 คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปีนี้
"ปีนี้เราน่าจะเติบโตได้มากกว่า 9% จากปริมาณการเติมน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบิน แม้ว่าในไตรมาส 2/59 จะเป็นช่วงของโลซีซั่น และมีการจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน แต่ก็ยังสามารถเติบโตไปได้ ขณะที่การลงทุนใหญ่ ๆ ในปีนี้คงไม่มี หลังมีการลงทุนระบบท่อขนส่งน้ำมันไปทางภาคเหนือ ที่เหลือคงเป็นการลงทุนภายในบริษัทปกติ"นายประกอบเกียรติ กล่าว