นายจุมพล เตชะไกรศรี กรรมการบริหาร บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม (TKT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะลดลงราว 15-20% จากเดิมที่คาดจะลดลง 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,364.70 ล้านบาท แต่จะพยายามรักษาระดับการทำกำไรสุทธิให้ใกล้เคียงกับปีก่อน จากปีก่อนทำได้ 12.40 ล้านบาท เป็นไปตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ทรงตัว และการปรับสัดส่วนงานของลูกค้าเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนของลูกค้าโตโยต้า 28.1%, ฟอร์ด 25.5% ที่เหลือก็กระจายไปรายอื่นๆ จากเดิมจะเน้นลูกค้าโตโยต้าถึง 50%
"เราคาดว่ารายได้น่าจะมีการปรับตัวลงอีก ซึ่งน่าจะอยู่ระหว่าง 15-20% จากเดิมที่เราคาดไว้ต้นปีว่าจะลดลง 15% ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ทรงตัว และกำไรสุทธิก็น่าจะใกล้เคียงปีก่อน หรือลดลงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในปี 60 จะสามารถกลับมาเติบโตได้ จากทุกอย่างเริ่มลงตัวมากขึ้น"กรรมการบริหาร TKT กล่าว
นายจุมพล คาดว่า แนวโน้มไตรมาส 2/59 ก็น่าจะมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง จากไตรมาสแรกที่มีผลขาดทุนสุทธิราว 8.08 ล้านบาท เนื่องด้วยเป็นช่วงของโลซีซั่นของอุตสาหกรรม แต่เชื่อว่าในไตรมาส 3-4/59 จะสามารถกลับมามีกำไรสุทธิได้ หลังมีการทยอยรับรู้งานในมือเข้ามามากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่างานในมือ (Backlog) ปีนี้จะอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท จะรับรู้ได้ทั้งหมดในปีนี้ แบ่งเป็น งานแม่พิมพ์ 80 ล้านบาท และชิ้นส่วน 920 ล้านบาท รวมถึงยังอยู่ระหว่างเจรจาค่ายรถยนต์เพื่อหาออเดอร์เพิ่มอีกด้วย ซึ่งนอกเหนือจากลูกค้าค่ายรถยนต์แล้ว บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเสริมยอดขายปีนี้และปี 60 ส่วนงบลงทุนปีนี้วางไว้ 30-40 ล้านบาทใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร