น.ส.อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพร์ส (JUBILE) เปิดเผยว่า บริษัทจะมีการทบทวนเป้าหมายและแผนงานของบริษัทหลังจากสิ้นไตรมาส 2/59 โดยบริษัทได้มองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังทั้งยอดขายและกำไรจะมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับบริษัทยังมีแคมเปญการตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมามากขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายมีแนวโน้มการเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทในไตรมาส 2/59 จะกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยจากไตรมาส 1/59 ที่ติดลบจากการออกโปรโมชั่นในช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มของยอดขายรวมในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะเป็นบวกได้จากไตรมาส 1/59 ที่ติดลบอยู่ 10% เพราะบริษัทมีการออกแคมเปญใหญ่ในช่วงเดือนมิถุนายน คือ Jubilee Mid Year Expo Bigest Sale 2016 ที่เชียงใหม่ วันที่ 17-19 มิถุนายน 59 ที่โรงแรมแชงการีล่า เชียงใหม่ และที่กรุงเทพฯ วันที่ 24-26 มิถุนายน ที่โรงแรมพูลแมน แบ็งคอก จี สีลม โดยจะเป็นงานที่กระตุ้นยอดขายให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโต 10-15% จากปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดสาขาใหม่อีก 7 สาขาในครึ่งปีหลัง แบ่งเป็น ร้าน Forevermark 3 สาขา และ JUBILEE Diamond shop 4 สาขา โดยใช้เงินลงทุนเฉลี่ยสาขาสาขาละ 7-10 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 59 บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 124 สาขา ซึ่งแผนการขยายสาขาของบริษัทจะสอดคล้องกับการขยายตัวของห้างสรรพสินค้า และจะมีบางสาขาที่จะยกระดับจาก Kiosk เป็นร้านเพชร
สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 131.12 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าและต้นทุนค่าใช้จ่าย อย่างเช่น งบการตลาดที่ปัจจุบันบริษัทมีแนวโน้มที่จะใช้น้อยลง เนื่องจากแบรนด์ JUBILEE เริ่มติดตลาดและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางแล้ว โดยปีนี้บริษัทวางงบการตลาดอยู่ที่ 8-10% ของยอดขาย โดยวัตถุประสงค์ของการควบคุมต้นทุนต่างๆเพื่อให้บริษัทมีกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนยอดขายนั้นบริษัทได้มีการจัดการบริหารพนักงานขายในแต่ละสาขาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสาขาเดิมของบริษัทที่เป็นปัจจัยหนุนหลักอย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้ ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมายอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทนั้นยังติดลบอยู่ ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัว ทำให้ลูกค้าต่างชะลอการจับจ่ายใช้สอย