นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาระบบนายหน้าซื้อขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ (อีคอมเมิร์ช) ภายใต้แบรนด์ใหม่ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/59 หรือต้นไตรมาส 3/59 ซึ่งจะมีบริการเต็มรูปแบบในกลุ่มสินค้าประกันทุกประเภทของหลากหลายบริษัทมานำเสนอขายอย่างครบถ้วนในไตรมาส 4/59
เนื่องจากบริษัทคาดว่าใน 3-5 ปีการขายประกันผ่านออนไลน์จะมีการเติบโตค่อนข้างมากตามกระแสความนิยม ดังนั้น ในอนาคตสัดส่วนรายได้จากบริการออนไลน์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แม้ว่าอัตรากำไรสุทธิจากบริการดังกล่าวอาจจะไม่ได้สูงเท่ากับการเสนอขายผ่านพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ (เทเลเซลล์) เพราะค่าคอมมิชชั่นที่น้อยกว่า แต่บริษัทยังเชื่อว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามปริมาณการขายรวม (วอลุ่ม) ที่เพิ่มขึ้น
"ต่อไปเราคงจะมีการเติบโตจากการขายผ่านช่องทาง Online มากกว่า ซึ่งเราคงจะเห็นผลชัดๆเลยคงเป็น 3-5 ปีข้างหน้า ที่เห็นโอกาสการเติบโตชัดเจนคงเป็นประกันการเดินทางที่สามารถซื้อแล้วได้รับการคุ้มครองทันที ต่างจากระบบปกติที่ต้องใช้ระยะเวลา 7 วันถึงจะได้ความคุ้มครอง นอกจากนั้นยังสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองของแต่ละบริษัทให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ทันที ปัจจุบันเราเป็นนายหน้าขายประกันวินาศภัย 27 บริษัท และประกันชีวิต 2 บริษัท"นายธวัชชัย กล่าว
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ราว 900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายได้ และกำไรก็จะมีการเติบโตในทิศทางเดียวกัน จากปีก่อนที่บริษัทฯมีรายได้ 161 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทฯจะมีการเพิ่มพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ (Tele sale) จำนวน 100 คน เพื่อเพิ่มพนักงานในส่วนนี้เป็น 300 คน จากปีก่อนที่ 200 คน
"เรายังคงเน้นการขยายตลาดในประเทศเป็นหลัก และยังไม่มีแผนที่จะขยายกิจการในต่างประเทศ เพราะตลาดบ้านเรายังขยายได้อีกมาก และเราก็ยังขนาดค่อนข้างเล็ก โดยปีนี้เราก็มีการเพิ่มพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์ ซึ่งจะช่วยให้เบี้ยรับรวมปีนี้มีการเติบโต"นายธวัชชัย กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/59 ที่มีรายได้ 39.31 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6.61 ล้านบาท โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้หลักจากการเป็นนายหน้าขายประกันรถยนต์ถึง 75% ในส่วนที่เหลืออีก 25% คือประกันชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่ประกันรถยนต์ก็จะเข้ามามากในช่วงไตรมาส 4/59 ที่จะเห็นผลได้ชัดของการเติบโต