นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่เช้านี้ต่างติดลบกัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลง และนักลงทุนต่างก็รอดูถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ก่อน แม้จะคาดการณ์ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม แต่ก็อยากที่จะรอดูสัญญาณต่อไป
นอกจากนี้ ผลโพลออกมาว่า คนอังกฤษอยากจะออกจากยูโรโซน ซึ่งถ้าออกจริงก็จะมีผลกระทบต่อกลุ่มแบงก์ และนักลงทุนอาจจะลดพอร์ตการลงทุน เพื่อรอดูผลกระทบก่อน ส่วนไทยก็คงจะโดนในแง่ของ Sentiment
ทั้งนี้ ขณะนี้ตลาดฯก็ยังไม่มีค่อยมีปัจจัยบวกเท่าไร มีแค่การประมูลโครงการรถไฟฟ้าต่าง ๆ เท่านั้น พร้อมให้แนวรับ 1,415-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,450 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,865.34 จุด ร่วงลง 119.85 จุด (-0.67%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,894.55 จุด ลดลง 64.07 จุด (-1.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.07 จุด ลดลง 19.41 จุด (-0.92%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 282.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 29.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 395.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 81.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 16.60 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 36.62 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 6.63 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 มิ.ย.59) 1,429.21 จุด ลดลง 6.44 จุด (-0.45%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 96.70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 มิ.ย.59) ปิดที่ 49.07 ดอลลาร์/
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 มิ.ย.59) ที่ 4.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.28 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็งค่า มองกรอบวันนี้ 35.20-35.35
- รัฐบาลปรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่รอการลงทุนของภาคเอกชน แต่เร่งให้รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่รีบจัดสรร เม็ดเงินลงทุนออกสู่ระบบ ขณะที่ธุรกิจเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำลังซื้อ โดยผู้บริหารบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจี เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครึ่งปีแรกจะเติบโต 0-3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ตลาดไม่เติบโต โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจในขณะนี้เริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ กลุ่มผู้บริโภคชั้นกลาง-บน เริ่มออกมาจับจ่ายในช่วงไตรมาส 2 มากขึ้น แต่ผู้มีรายได้น้อยกำลังซื้อยังไม่ฟื้นเนื่องจากภัยแล้ง
- ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยได้ประเมินปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 15 "ยูโร 2016" ระหว่างวันที่ 10 มิ.ย.-10 ก.ค. 2559 อยู่ที่ 300-400 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ถือเป็นปริมาณที่ไม่สูงมากนัก เพราะการแข่งขันส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ 23.00 น. เป็นต้นไป
- ธปท.เผยรัฐออกมาตรการกระตุ้นดันเครื่องชี้ธุรกิจบัตรเครดิตดีดตัวดีขึ้น ปริมาณการใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 1.17 หมื่นล้านบาท เฉพาะใช้จ่ายในประเทศหมื่นกว่าล้านบาท ขณะที่ยอดสินเชื่อและจำนวนบัตรเครดิตพุ่งต่อเนื่อง ด้านสินเชื่อส่วนบุคคลยังคุมเข้ม
- ธนารักษ์รื้อค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์รายใหญ่ เล็งทอท.เจ้าแรก หนุนรายได้ปีงบ 63 ทะยานแตะ 1.21 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินเครื่องบ้านประชารัฐ คาดเริ่ม ก.ค.นี้ ปี 2560 พร้อมอยู่
- พาณิชย์ลุยหารือเอกชนรายกลุ่ม ประเมินแนวโน้มส่งออก เริ่มแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป พร้อมปรับแผนเชิงรุก นำธุรกิจจัดบิสสิเนส แมตชิ่ง ช่วงผู้นำรัฐบาลเยือนประเทศต่างๆ หวังเพิ่มยอดส่งออกในทันที
- ชี้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง หลัง "จอร์จ โซรอส" ขายหุ้นในตลาด โยกเงินมาถือหุ้นในเหมืองทอง คาดครึ่งปีหลังยอดขายในประเทศดีขึ้นตามเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์แนะทยอยขายทำกำไรออกบ้าง
*หุ้นเด่นวันนี้
- EASON-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. อีซึ่น เพ้นท์ (EASON)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 95,297,657 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.70 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี 6 เดือน นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 30 พ.ย. 2560
- WORK (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร"เป้า 42 บาท คาดกำไรปกติ 2Q59 เร่งตัว +201% Q-Q จากรายได้ทีวีดิจิตอลที่เพิ่มขึ้นตาม Utilization rate ที่เพิ่มตามฤดูกาลเป็น 80% จากไตรมาสก่อนที่ 60% และค่าโฆษณาเพิ่มต่อเนื่อง โมเมนตัมการฟื้นตัวของกำไรจะดีต่อเนื่องใน 3Q59 ก่อนชะลอลงในไตรมาสสุดท้ายเพราะค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงาน โดยยังคาดกำไรปกติปี 2059-60 เพิ่มขึ้น 60% และ 32% ตามลำดับ จากการขึ้นค่าโฆษณาได้เพราะ Content แข็งแกร่ง
- ROBINS (เคทีบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 68 บาท มองแนวโน้มยอดขายของ ROBINS จะดีอย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาสจากฐานยอดขายที่ดีขึ้นหลังปรับปรุงสาขา ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีต่อเนื่องจาดสัดส่วนสินค้า own brand และ inter brand ที่เพิ่มมากขึ้น
- KTC (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 125 บาท ประเมินกำไรปีนี้โต 16.6% YoY เป็น 2.4 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง (ได้ปรับ Credit rating เป็น A+ จาก A-) และการบริโภคในประเทศฟื้นตัว อีกทั้งวันนี้ มีข่าวปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่ม จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯ ส่วน PE 9.6 เท่า Dividend yield 4.7% ด้านราคาหุ้น Breakout แนวต้านกรอบ Sideway ที่ 90.5 บาท ประเมินมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 95 บาท และถัดไปที่ 98 บาท แนวรับ 90 บาท