นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) เปิดเผยว่า บริษัทจะมีการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรในการจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อว่า บริษัท ไอเฮลธ์ วี-แคร์ จำกัด เพื่อรองรับการทำกิจการร่วมค้าและขยายเครือข่ายสินค้า ให้ครอบคลุมพื้นที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนกับบริษัท iHealth Lab Inc Silicon Valley, California. ประเทศสหรัฐอเมริกา (iHealth) ในธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ยี่ห้อ iHealth
บริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายรายได้ในปีนี้ ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท โดยมาจากของธุรกิจตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ 2,000 ล้านบาท, ธุรกิจจากบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (WCIG) 2,500 ล้านบาท และธุรกิจคอสเมติกส์ 500 ล้านบาท รวมถึงยังมีรายได้จากธุรกิจผลิตเมือกหอยทากราว 160 ล้านบาท และธุรกิจ Health 100 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมองหาการซื้อกิจการเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้วย
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งในด้าน SIAM SNAILผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทากไทยภายใต้ Brand SNAIL8 สำหรับบำรุงผิว ลดเลือนริ้วรอย ที่ EFORL ถือหุ้นอยู่ 51%ปัจจุบันได้รับการตอบรับที่สูง ส่งผลให้แนวโน้มมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการขยายธุรกิจในด้านอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วยภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงด้วย ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลง ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีต่อ EFORL
สำหรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเครื่องสำอาง (คอสเมติกส์) เพิ่มขึ้นเป็น 12% จากไม่ถึง 1% ในปีก่อน โดยธุรกิจคอสเมติกส์มีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 25% ขณะที่จะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเครื่องมือแพทย์ราว 10-12%
นายธีรวุทธิ์ คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีผลขาดทุนลดลงจากไตรมาสแรก และจะดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจาก สถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจสนับสนุน อีกทั้งบริษัทได้ทำการย้ายพื้นที่ตั้งสาขาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบมีการปรับสต็อกสินค้าให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ทั้งปีนี้ยังสามารถทำกำไรสุทธิได้ แต่อาจจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ระดับ 210.39 ล้านบาท
“เชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจจะสดใสขึ้นในช่วงที่เหลือปีนี้ แม้ในไตรมาส 1/59 บริษัทและบ.ย่อย จะขาดทุนสุทธิ 32.26 ล้านบาท เพราะในช่วงครึ่งปีหลังถึงช่วงสิ้นปี เป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ" นายธีรวุทธิ์ กล่าว
นายธีรวุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับหนี้จากสถาบันทางการเงินที่ใช้ในการเข้าซื้อกิจการของ บริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (WCHI) นั้นเหลืออยู่อีก 800 ล้านบาท บริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าจะคืนหนี้ทั้งหมดในปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหาแนวทางที่เหมาะสม
ส่วนความคืบหน้าการยื่นแบบเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของ WCIH ขณะนี้อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยยืนยันว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายได้ภายในปีนี้