นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า โครงการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 มูลค่าลงทุน 2.7 หมื่นล้านบาท จะเริ่มกระบวนการประมูลได้ในงบประมาณปี 61 (ต.ค. 60 -ก.ย. 61) โดยขณะนี้เริ่มเดินหน้างานบางส่วนแล้ว ได้แก่ การเตรียมงานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1, ทุบตึกเก่า, จัดการจราจรใหม่ เป็นต้น
โดยเนื้องานของโครงการแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักได้แก่ 1)งานก่อสร้างอาคารจอดรถ 7 ชั้น ซึ่งระหว่างนี้อยู่ชั้นตอนการจัดการรื้อถอนทุบตึกเก่าที่อยู่ด้านทิศเหนือ เพื่อจะใช้ก่อสร้างอาคารจอดรถ 7 ชั้น 1 อาคาร และก่อสร้างเพิ่มอาคารจอดรถเดิมจากที่มี 2 ชั้นเพิ่มเป็น 5 ชั่น
2) กลุ่มงานอาคารผู้โดยสารและอาคารสนับสนุน เช่น งานก่อสร้างขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือพร้อมติดตั้งสะพานเทียบ 3 ชุด งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 งานก่อสร้างอาคาร Junction Building และอาคารจอดรถยนต์ผู้โดยสาร งานปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 (Pier 6) เป็นต้น กลุ่มงานระบบสาธารณูปโภค โดยงาน Junction เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 กับอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 และเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น โดยงานในส่วนนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่
3) งาน Airside ประกอบด้วย งานก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ พร้อมทางขับเชื่อมและระบบเติมน้ำมันอากาศยาน งานปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ และทิศใต้ พร้อมระบบเติมน้ำมันอากาศยาน งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานสำหรับกิจกรรมการบิน General Aviation และงานก่อสร้าง Rapid Exit Taxiway บริเวณทางวิ่ง 21 และ Exit Taxiway เชื่อมต่อทางขับสาย B และ C เป็นต้น โดยงานปรับปรุงลานจอดอากาศยาน จะเพิ่มจำนวนหลุมจอดอีก 12 หลุมจอดจากปัจจุบันมี 101 หลุมจอดเพิ่มเป็น 113 หลุมจอด
ทั้งนี้ AOT อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานรายละเอียดรวมถึงมูลค่าแต่ละงาน โดยงานแรกกำลังร่างหนังสือการประมูลราคางานรื้อถอนทุบตึกเก่าก่อน ส่วนงานลำดับถัดมาจะจ้างออกแบบทั้ง 3 งาน จากนั้นถึงจะเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับเหมาก่อสร้างสำหรับ 3 งานข้างต้น โดยคาดว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้น่าจะได้ความชัดเจน
ตามแผนงาน โครงการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 จะมีกำหนดการแล้วเสร็จในปี 65 โดยจะสามารถรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคน จากปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสาร 28 ล้านคน และคาดว่าปลายปีนี้จะเพิ่มเป็น 30 ล้านคน
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 มี 7 งานได้เปิดประมูลแล้ว 3 งาน โดยงานจ้างที่ปรึกษา CSC จะประมูลใหม่คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างในวันที่ 5 ส.ค. นี้ ส่วนอีก 2 งาน คือ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วน ต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ราคากลาง 2,265.291 ล้านบาท คาดว่าทั้งสองโครงการจะได้ผู้รับเหมาและเริ่มตอกเสาเข็มได้ ในวันที่ 15 ส.ค. 59
ส่วนอีก 4 งานที่เหลือคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลทันภายในปี 59 โดยงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) วงเงินประมาณ 3 พันล้านบาทคาดว่าจะเปิดประมูลได้ก.ค.นี้
ขณะที่งานก่อสร้างทางวิ่ง (Runway)ที่ 3 มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และ งานอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มูลค่า 3.4 หมื่นบาทนั้น นายนิตินัย คาดว่า จะเริ่มงานประมูลได้ในต.ค. 60 โดยภายในปีงบประมาณ 59 หรือภายใน ก.ย. 59 จะเปิดประมูลงานออกแบบทั้งสองงานก่อน ซี่งเป็นงานที่ใช้เวลามากกว่า 1 ปี ระหว่างที่รอผลการอนุมัติการรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA) ของทั้งสองโครงการ
ปัจจุบัน AOT มีกระแสเงินสดประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และมีกำไรปีละประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ในช่วง 5 ปี บริษัทจะมีเงินทุนพร้อมลงทุน 7.5 หมื่นล้านบาท