สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (6 - 10 มิถุนายน 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 471,544.03 ล้าน บาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 94,308.81 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ % ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 67% ของมูลค่าการซื้อขายทั้ง หมด หรือประมาณ 316,057 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 116,114 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 10,939 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 3.0 ปี) LB21DA (อายุ 5.5 ปี) และ LB296A (อายุ 13.0 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อ ขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 22,940 ล้านบาท 22,139 ล้านบาท และ 15,853 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (8) จำกัด รุ่น MBSE20NA (AA-(sf)) มูลค่าการซื้อขาย 981 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด รุ่น ICBCTL204A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 618 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด รุ่น AWN235A (AA+(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 577 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยตราสารอายุ 10 ปี ปรับลดลง 14 bps. จาก 2.24% มาอยู่ที่ 2.10% ซึ่งนักลงทุนต่างชาติรอดูความชัดเจน เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้มีการ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรซึ่งแย่กว่าที่ตลาดคาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังระบุว่า Fed จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับรายงานตัว เลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นมาอยู่ที่ 51.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงเช้าวันพฤหัสฯ ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed.) วันที่ 14 – 15 มิ.ย. ซึ่งตลาดคาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา (06 มิ.ย. - 10 มิ.ย. 59) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 53,801 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 41,814 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 18,737 ล้านบาท และเป็นตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 6,750 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (6 - 10 มิ.ย. 59) (30 พ.ค. - 3 มิ.ย. 59) (%) (1 ม.ค. - 10 มิ.ย. 59) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 471,544.03 469,570.39 0.42% 10,472,655.16 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 94,308.81 93,914.08 0.42% 98,798.63 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 113.68 112.66 0.91% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 107.68 107.29 0.36% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (10 มิ.ย. 59) 1.38 1.44 1.46 1.57 1.79 2.1 2.46 2.77 สัปดาห์ก่อนหน้า (3 มิ.ย. 59) 1.43 1.47 1.49 1.7 1.96 2.24 2.58 2.79 เปลี่ยนแปลง (basis point) -5 -3 -3 -13 -17 -14 -12 -2