นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บมจ. แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติในการโรดโชว์โครงการคอนโดมิเนียม “เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา" เมื่อวันที่ 11-12 มิถุนายนที่ผ่านมาที่ประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันและจีน ได้เป็นมูลค่าทะลุกว่า 1,000 ล้านบาทซึ่งนับว่าเป็นมูลค่าสูงที่สุดที่บริษัทเคยทำได้จากการสร้างยอดขายตลาดต่างชาติในขณะนี้ และเกินจากเป้าโควตาขายตลาดต่างชาติที่วางไว้ โดยมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมงานโรดโชว์ในต่างประเทศจำนวนมาก
สำหรับเหตุผลที่ลูกค้าต่างชาติให้การตอบรับและให้ความสนใจโครงการเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดาจำนวนมาก มาจากการที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในจุดแข็งด้านการเป็นผู้นำการพัฒนาที่อยู่อาศัยของแสนสิริผนึกศักยภาพของบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนซึ่งเป็นที่รู้จักของคนฮ่องกงเป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่ฮ่องกงมีลูกค้าชาวฮ่องกงให้ความสนใจโครงการและเข้าร่วมงานโรดโชว์จำนวนมาก จนสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 80% จากยอดขายรวมที่ทำได้จากตลาดต่างชาติในครั้งนี้
ส่วนหนึ่งมาจากความมีชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ BTS ในกลุ่มลูกค้าชาวฮ่องกงซึ่งให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นนายคีรีเป็นอย่างมาก จนส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายโครงการจากลูกค้าต่างชาติในครั้งนี้ได้ทะลุกว่า 1,000 ล้านบาทในที่สุด
นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจในคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ล่าสุดของบริษัท “เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา" จากทำเลที่ตั้งซึ่งนับว่ามีศักยภาพสูงในการเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ของกรุงเทพฯ ทำเลนี้กำลังเป็นที่จับตามองของกลุ่มทุนทั้งจากไทยและต่างประเทศ จากการที่ย่านอโศก-รัชดาภิเษกเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองต่อจาก Central Business District ซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่เป็นศูนย์รวมทางด้านการคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
เพราะทำเลนี้สามารถเชื่อมต่อโดยรอบจากการรายล้อมด้วยโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ทั้ง ทางด่วนหลายเส้นทางและเป็นศูนย์รวมรถไฟฟ้าหลายสายอาทิ ทางด่วนศรีรัช, รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS), รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT), Airport Link ใกล้สถานีมักกะสัน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต มีการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) ของคอนโดฯพร้อมอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าในรัศมี 500 เมตร ในทำเลรัชดา-พระราม9 อยู่ที่ประมาณ 6-10% ต่อปี และคาดว่าจะได้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมในโครงการนี้อยู่ที่ประมาณ 6-7% ต่อปี
นอกจากนี้ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ย่านรัชดาภิเษกเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นย่านธุรกิจมากขึ้น ที่ดินถูกพัฒนาให้เป็นอาคารสำนักงานเกรด B+ ไปจนถึงเกรด A เช่น AIA Capital Center อาคารสำนักงานและรีเทลระดับพรีเมียมที่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนถนนรัชดาภิเษก รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งได้ย้ายจากคลองเตยมายังรัชดาภิเษก เพื่อให้ที่นี่เป็น “ศูนย์ธุรกิจตลาดทุนครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศแห่งแรกของเมืองไทย" บวกกับแหล่งช้อปปิ้งหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล แกรนด์ พระราม9, เอสพลานาด รัชดาภิเษก, ตลาดนัดรถไฟ รัชดา และล่าสุด กับโครงการเดอะ สตรีท รัชดา แหล่ง Hang out แห่งใหม่บนย่านรัชดา ที่จะมาเติมเต็มทำเลแห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
“ทำเล อโศก-รัชดาภิเษก ถือว่าเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะจากแยกเพชรบุรีมาจนถึงแยกศูนย์วัฒนธรรม จะเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตมาก เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจและยังใกล้ทางด่วนอีกด้วย ซึ่งหากพิจารณาในแง่ของการลงทุนทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ทำเลนี้ถือว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูง จากความต้องการใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามแหล่งงานโดยเฉพาะชาวจีนและชาวญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นเพิ่มเข้ามาในพื้นที่นี้แล้ว" นายอุทัย กล่าว
นายอุทัย กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่ากลุ่มลูกค้าชาวไทยจะให้การตอบรับโครงการเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ในการเปิดพรีเซลส์ในวันที่ 25-26 มิถุนายนนี้ ที่เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา เซลส์ แกลอรี่เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับการโรดโชว์กลุ่มลูกค้าต่างชาติ จากศักยภาพของทำเล เพียง 300 เมตรจาก MRT พระราม 9 และเส้นทางต่างๆ ที่เชื่อมต่อโซนสำคัญได้รอบด้านภายใต้คอนเซ็ปต์โครงการ Balance is Everything ที่พร้อมลงทุนปล่อยเช่าทันทีที่สร้างเสร็จ โดยคาดหวังว่าลูกค้าจะให้การตอบรับและสามารถปิดการขายโครงการได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับเดอะ ไลน์ ทุกโครงการที่เปิดตัวในช่วงที่ผ่านมา