นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถกระจายตู้เติมเงินบุญเติมได้เร็วกว่าแผนการที่วางไว้ โดย ณ สิ้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมามีจำนวนตู้เติมเงินทั่วประเทศราว 77,000 ตู้ โดยได้รับความร่วมมือจากตัวแทนบริการทั่วประเทศในการหาทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ยอดเติมเงินในไตรมาส 2/59 เติบโตในทิศทางเดียวกับไตรมาสแรก และจะผลักดันให้ผลประกอบการปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดรายได้เติบโต 30% จาก 1,683.96 ล้านบาท และกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อนทำได้ 271.74 ล้านบาท
“จากการดำเนินงาน 5 เดือนที่ผ่านมาเราเดินตามแผนงานได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของการดำเนินงานของบริษัท และการดำเนินงานของตัวแทนบริการทำให้สามารถเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและเร็วกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลต่อแนวโน้มของยอดเติมเงินที่เพิ่มขึ้นทุกปี และมียอดการใช้บริการ “ตู้บุญเติม"อยู่ระดับเฉลี่ยที่ 1.7 ล้านรายการต่อวัน แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ยังมีอยู่ในหลายพื้นที่ที่สามารถเพิ่มตู้เติมเงินได้อีก โดยเชื่อว่าผลงานในไตรมาส 2 น่าจะดีเช่นกัน"นายสมชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน ยังจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเพื่อเพิ่มยอดการใช้งานผ่าน“ตู้บุญเติม" อาทิ โปรโมชั่นเติมเงิน True Wallet ที่ตู้บุญเติมฟรีค่าบริการทั่วประเทศ การสะสมแต้มเพิ่มจากการเติมเงินมือถือ True ลุ้นแลกของรางวัล และโปรโมชั่นเติมเงิน One-2-call 50 บาทได้รับค่าโทรฟรี 5 บาท ซึ่งจะเริ่มในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทยังมุ่งพัฒนาระบบของตู้เติมเงินเพื่อรองรับบริการต่าง ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการโอนเงิน การชำระค่าบริการอื่น ๆ ผ่านตู้บุญเติม ตลอดจนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกรรมที่สะดวกขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมโอกาสในการหารายได้ของบริษัทให้มากขึ้นในอนาคต
สำหรับการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี 59 บริษัทยังคงเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเป้าหมายจำนวนตู้ที่ 90,000 ตู้ และยอดเติม 21,000 ล้านบาทเช่นเดิม แต่จะเพิ่มบริการในตู้เติมเงินบุญเติมเพื่อความหลากหลาย และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีบริการใหม่เพิ่มเข้ามาไม่ว่าจะเป็นบริการเติมเงินจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหม่อย่าง เพนกวิน และ My world บริการเติมเงิน MPASS เพื่อชำระค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ บริการซื้อแพ็กเกจเสริม และอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากค่าโฆษณาที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปีก่อนอยู่ที่ราว 10 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากการบริการอื่น ๆ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากการเติมเงินมือถือ ,ตู้กดน้ำ RO ,ตู้กดน้ำอัตโนมัติ (Vending Machine) 96-97%, การจ่ายบิล 1.7-1.8%, บัตรแคชการ์ด 1.3% และที่เหลือก็จะเป็นค่าเกมส์ รวมถึงเครื่องชั่งน้ำหนัก ที่ปัจจุบันมีการขยายจุดบริการชั่งน้ำหนักแล้วจำนวน 10,333 จุด
นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า หลังจากเปิดให้บริการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านตู้เติมเงินบุญเติม ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับผลการตอบรับที่ดี มีอัตราการเติบโตถึง 30% ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์เพื่อขยายการให้บริการ คาดว่าจะเห็นบริการที่ครอบคลุมมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ จากปัจจุบันมีธุรกรรมเพียงธนาคารกรุงไทยรายเดียว โดยค่าธรรมเนียมการโอนเงินดังกล่าวจะคิดเป็น 1-1,000 บาท มีค่าธรรมเนียม 30 บาท ,ไม่เกิน 3,000 บาท/ครั้ง คิดค่าธรรมเนียม 50 บาท/ครั้ง และ 3,000 -5,000 บาท คิดค่าธรรมเนียม 70 บาท/ครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำกำไร
พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมขยายธุรกิจไปสู่ตู้เติมน้ำมัน โดยจะมีการทดลองในเฟสแรกเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อทดลองตลาดว่าจะมีผลตอบรับดีหรือไม่ ซึ่งจะวางตู้เติมน้ำมันจำนวน 100-200 ตู้ ในโซนภาคกลางก่อน และเตรียมเปิดให้บริการแอพพลิเคชั่น เงินอิเล็กทรอนิกส์ (Be-Wallet) ในครึ่งปีหลังนี้ วางงบลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท