นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งยืนยันการชำระเงินค่าใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จำกัด (AWN) ในเครือบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ว่าอย่างช้าที่สุดจะต้องไม่เกินวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.59 และให้มีผลในการใช้งานบนคลื่นความถี่ดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในวันนี้ทางสำนักงาน กสทช.จะทำหนังสือแจ้งกลับไปยัง บริษัท แจสโมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ในกลุ่มบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เพื่อสรุปยอดที่ต้องชำระ สำหรับค่าเสียหายที่เกิดจากการไม่รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz โดยยอดที่ต้องชำระรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้นราว 200 ล้านบาท
อนึ่ง เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.59 ทางสำนักงาน กสทช.ได้รับหนังสือจากประธานกรรมการ บริษัท แจสโมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ว่าจะขอเลื่อนการชำระเงิน ที่ทางสำนักงาน กสทช.ได้เรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม จากจำนวนเงินทั้งสิ้น 199.42 ล้านบาท และมีกำหนดชำระในวันที่ 16 มิ.ย.59 โดยทางบริษัท แจสโมบาย บรอดแบรนด์จำกัด มีความยินดีที่จะชำระเงิน ซึ่งจะนำเงินมาชำระในวันที่ 30 มิ.ย.59 และให้ทางสำนักงาน กสทช.คิดอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ตามประกาศของกสทช.
นอกจากนี้ ทาง กสทช.เตรียมเชิญผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย ได้แก่ ADVANC , บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค, บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE), บมจ. กสท โทรคมนาคม และบมจ.ทีโอที มาสอบถามข้อมูล เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนร้องเรียกถึงปัญหาการใช้โทรศัพท์มือถือแล้วสายหลุดบ่อย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยร้องเรียนมาอยู่แล้วแต่ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อให้ไปดำเนินการแก้ไข ซึ่งยอดผู้ร้องเรียน ณ ปัจจุบัน พบว่าเป็นของเอไอเอส 994 เรื่อง ดีแทค 497 เรื่อง ทรูมูฟเอช 386 เรื่อง CAT 32 เรื่อง และทีโอที 7 เรื่อง
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้มีมติผ่านเรื่องร่างหลักเกณฑ์การจัดเก็บเงินรายได้ USO ทางด้านกระจายเสียงและทางด้านโทรทัศน์ โดยจะนำร่างดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และหลังจากนั้นจะนำกลับมาสู่ที่ประชุมบอร์ด กสทช.ใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
โดยร่างประกาศหลักเกณฑ์การเก็บเงินรายได้ USO ทางด้านกระจายเสียงและทางด้านโทรทัศน์ ถ้ามีรายได้ 5 ล้านบาทแรก จะคิดอัตรา 0.5% ,รายได้ที่เกินกว่า 5 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท จะเก็บ 0.75% ส่วนรายได้ที่เกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท จะเก็บในอัตรา 1% ,รายได้ที่เกิน 500 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จะเก็บในอัตรา 1.75% และรายได้ที่เกินกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จะจัดเก็บในอัตรา 2%