ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด ก่อนจะไหลลงไปเป็นกว่า 20 จุดในช่วงก่อนพักเที่ยง ขณะที่โบรกเกอร์มองต่างชาติขายลดความเสี่ยง เพื่อลงดูการลงประชามติของอังกฤษเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกดดันให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานออกมาด้วย รวมถึงยังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสารและแบงก์ออกมาถ่วงตลาดด้วย
เมื่อเวลา 10.08 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,424.55 จุด ลดลง 10.34 จุด (-0.72%)
เมื่อเวลา 10.26 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,423.21 จุด ลดลง 11.68 จุด (-0.81%)
และ ล่าสุด เมื่อเวลา 12.21 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,414.81 จุด ลดลง 20.08 จุด (-1.40%)
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลังจากที่ดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลในปัจจัยเดิมในส่วนของ Brexit ที่ยังมีอยู่ ประกอบกับมีปัจจัยกดดันใหม่เข้ามาเสริมจากการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มแบงก์ ทำให้โบรกเกอร์หลายแห่งเริ่มทยอยปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มแบงก์ลง ขณะที่ราคาน้ำมันที่ทรง ๆ ตัวถึงปรับลดลงในช่วงนี้ ยังกดดันให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาด้วย
ทำให้มองว่าในระยะสั้นดัชนีไม่น่าที่จะทะลุแนวต้านระดับ 1,430 และ 1,450 จุด โดยมองดัชนีจะมีแนวรับระยะต่อไปที่ระดับ 1,412 และ 1,415 จุด โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,430 จุด
ขณะที่โบรกเกอร์อีกรายหนึ่ง คาดว่าแรงขายหุ้นไทยที่ออกมาในวันนี้ น่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายลดความเสี่ยงจากความวิตกเรื่อง Brexit และยังกังวลต่อกำไรที่อาจจะลดลงของกลุ่มแบงก์ จากกรณีการจะเปิดบริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ “พร้อมเพย์ –PromptPay" กระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง