หุ้น NETBAY ปิดเทรดวันแรกที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 7.10 บาท (+117.50%) จากราคาขาย IPO ที่ 4 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,864.17 ล้านบาท โดยราคาเปิดตลาดที่ 8.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 11.70 บาท และราคาลงต่ำสุด 8.30 บาท
นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เน็ตเบย์ (NETBAY) กล่าวว่า บริษัทฯมีความยินดีกับราคาเปิดทำการซื้อขายเป็นวันแรก โดยมองว่าจากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟแวร์ e-Logistic Trading และ e-Business Services ที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ ,กลางน้ำ และปลายน้ำ อย่างครบวงจร ขณะที่ยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ที่จะส่งเสริมการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอล จึงทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก
ทั้งนี้ บริษัทฯยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา ก็มีการเติบโตราว 20% ซึ่งปีนี้คาดรายได้น่าจะมากกว่า 20% จากการให้บริการใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มบริการ e-Logistic เป็นการให้บริการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล้กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร เกี่ยวกับสินค้าและการขนส่งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น บริการรับ-ส่งข้อมูลธุรกรรมเอกสารการค้าทางอิเล้กทรอนิกส์ บริการรับ-ส่งข้อมูลธุรกรรมพิธีการทางศุลกากร 2.กลุ่มบริการ e-Business Services ได้แก่ การรายงานข้อมูลธุรกรรมลุกค้าที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลุกค้า และ 3.กลุ่ม Projects และอื่นๆ ได้แก่ การพัฒนาระบบงานสารสนเทศภายในให้แก่หน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิตอล
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายการให้บริการธุรกรรมข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ไปยังฐานลูกค้าใหม่ โดยอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ e-DLT (Department of Land Transport) เพื่อให้บริการรับ-ส่ง และเชื่อมโยงข้อมูลการชำระภาษีรถยนต์ทุกประเภทระหว่างกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์กับกรมการขนส่งทางบก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ โดยระบบดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สามารถชำระภาษีรถยนต์ทุกประเภททางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้หลายรายการพร้อมกันในคราวเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายการชำระภาษีรถยนต์
พร้อมกันนี้ก็อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อโปรแกรม หรือร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Business เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ขณะที่เงินที่ได้จากการระดมทุนราว 160 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการลงทุนเรื่องของแพลตฟอร์ม และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น NETBAY ถือว่ามีความน่าสนใจ เนื่องจากอยู่ในสายงานเทคโนโลยี และเป็นหุ้นสตาร์ทอัพ ตัวแรกที่เข้าเทรดในตลาดหลัทรัพย์ฯ จึงทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในครั้งนี้มีเพียง 40 ล้านหุ้น มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นบนกระดาน จึงส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปพอสมควร
อีกทั้งบริษัทฯก็มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างยั่งยืน และในอนาคตยังได้รับผลดีจากนโยบายการลงทุนเศรษฐกิจดิจิตอล ของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนต่างๆ หันมาใช้แพลตฟอร์ม e-Business Services มากขึ้น