นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมุ่งเน้นการสร้างกำไรให้เติบโตขึ้นมากกว่าการเติบโตของรายได้ และส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) จากปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60.19 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส1/59 สามารถทำกำไรได้แล้วที่ 51.39 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ โดยจะเป็นการเข้าซื้อโครงการพลังงานทดแทนภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้อัตราผลตอบแทยจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งบริษัทวางเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในธุรกิจพลังงานอยู่ที่ 1 พันล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/59
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในประเทศ โดยจะใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ราว 1-2 พันล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/59 เช่นกัน แหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่มีอยู่ในราว 1.2 พันล้านบาท และจะใช้เงินกู้สถาบันการเงินด้วย ซึ่งบริษัทยังมีความสามารถในการกู้อยู่ในระดับสูง เพราะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0 เท่า
ส่วนงานวานิชธนกิจ (IB) ภายใต้ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ปัจจุบันมีลูกค้า 10-20 รายในมือ ซึ่งมีทั้งงานที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) การซื้อกิจการ (M&A) การร่วมทุน (Joint venture) และการออกหุ้นกู้ คาดว่าในปีนี้จะมีดีลที่สรุปได้ราว 10 ดีล ส่วนงานนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์นั้น บริษัทจะลดสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยให้ต่ำกว่าปัจจุบันที่ 65% เพราะการแข่งขันในอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง โดยจะเปลี่ยนแนวทางไปเป็นการมุ่งเน้นงานประเภทการให้บริการกับลูกค้ารายใหญ่ที่ให้อัตรากำไรสูงกว่า