นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 60 เพิ่มเป็น 10% จาก 5% ในปัจจุบัน โดยจะรุกเข้าไปรับงานใน CLMV ทั้งกัมพูชา,ลาว,เมียมา และเวียดนามเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานในประเทศเมียนมาที่จะมีโครงการลงทุนต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทได้ยื่นประมูลงานในเมียนมา มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและสร้างถนน โดยคาดหวังจะได้รับงานราว 10% ของมูลค่างานที่ยื่นประมูล
สำหรับมูลค่างานก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทติดตามอยู่ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ารวมทั้งหมด 6.3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทก็จะเข้าร่วมประมูลงานดังกล่าวและคาดหวังจะได้รับงานราว 10% ของมูลค่างานทั้งหมด สำหรับงานที่มีมูลค่าสูงส่วนใหญ่จะเป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า 3 โครงการ มูลค่าโครงการละ 1 หมื่นล้านบาท และงานก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 โดยบริษัทสนใจงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 มูลค่าราว 1.3 หมื่นล้านบาท และงานระบบสาธารณูปโภคมูลค่า 2-3 พันล้านบาท
ส่วนมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 40-60% ขณะที่ยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% จากปีก่อน พร้อมกับมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 1-2%
นายปสันน กล่าวอีกว่า บริษัทยังมั่นใจว่าจะได้รับเงินชดเชยการชนะคดีคลองด่าน ซึ่งจะเป็นเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 700 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทไม่ได้มาชำระเงินในงวดที่ 2 ในเดือนพฤษภาคมให้กับผู้รับเหมาที่บริษัทร่วมทุนอยู่ด้วย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอกำหนดระยะเวลาการจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยในคดีคลองด่านจากหน่วยงานภาครัฐ