ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ตั้งเป้าสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ปีนี้เติบโต 6-8% จากยอดสินเชื่อคงค้างของลูกค้า SMEs ในสิ้นปีก่อนที่ 5 หมื่นล้านบาท แม้ว่าในไตรมาส 2/59 มีแนวโน้มหดตัวจากไตรมาส 1/59 เนื่องจากมีวันหยุดค่อนข้างมาก แต่มองว่าในช่วงครึ่งหลังของปียังเห็นโอกาสเติบโตได้จากปัจจัยบวก คือ โครงการลงทุนภาครัฐที่กำลังเดินหน้า เสริมด้วยมาตรการกระตุ้นการลงทุนที่รัฐบาลมีแผนออกมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 2 ก.ค.นี้ เป็นปัจจัยสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของลูกค้า SMEs การนำทรัพย์สินนอกเหนือจากที่ดิน โรงงาน มาเป็นหลักประกันกู้เงิน ช่วยให้ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่มีศักยภาพ มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก มีทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงทรัพย์สินข้าวของในร้าน ทุกอย่างเหล่านี้ สามารถนำมาเป็นหลักประกันในการกู้เงินได้ จากเดิมไม่สามารถทำได้ จะได้เห็นมีลูกค้าขอกู้เงินได้มากขึ้น เพราะเดิมหลักประกันเป็นปัญหาสำคัญที่คู่กับ SMEs มาโดยตลอด
ขณะที่ CIMBT ตั้งเป้าควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้า SMEs ในปีนี้ที่ 3% จาก 3.1% หลังมีการปรับโครงสร้างลูกค้าใหม่โดย ปัจจุบัน ธนาคารแบ่งกลุ่มลูกค้า SMEs ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ยอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท/ปี กลุ่ม 2 ยอดขาย 100-1,000 ล้านบาท/ปี และ กลุ่ม 3 ยอดขาย 1,000-3,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งช่วยในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
นางวรีมน นิยมไทย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพาณิชย์ธนกิจ CIMBT กล่าวว่า ในไตรมาส 1/59 ธนาคารปล่อยสินเชื่อและมีลูกค้าเบิกใช้ไปแล้ว 3.5 พันล้านบาท และล่าสุด 4 เดือนแรกมีการอนุมัติเพิ่มเป็น 4 พันล้านบาท โดยลูกค้า SMEs ของธนาคารส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ธุรกิจยางพาราและธุรกิจแปรรูปยางพารา เป็นต้น
ส่วนในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อลดลงจากไตรมาส 1/59 เนื่องจากไตรมาส 2/59 เป็นช่วงที่มีวันหยุดค่อนข้างมากและส่งผลให้ลูกค้าไม่ได้มีการเบิกวงเงินสินเชื่อมาใช้ในการทำธุรกิจในช่วงนี้ แต่จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 3/59 และไตรมาส 4/59 ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดน้อยกว่าในครึ่งปีแรก