หุ้น THCOM ราคาไหลลง 2.43% มาอยู่ที่ 24.10 บาท ลดลง 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 271.95 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.35 น. โดยเปิดตลาดที่ 24.80 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 24.90 บาท และราคาลงต่ำสุด 23.90 บาท ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่ CTH ประกาศจะยกเลิกออกอากาศผ่านดาวเทียมระบบ KU-Band ตั้งแต่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป แม้กระทบต่อบมจ.ไทยคม (THCOM) ค่อนข้างน้อยคือ 1% ของรายได้รวมหรือ 150 ล้านบาท/ปี เพราะ CTH เช่าใช้อยู่ 2 Transponder แต่เป็นสัญญาณเชิงลบสำหรับลูกค้ารายอื่นในกลุ่มทีวีดาวเทียม ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก อาจประสบปัญหาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการถูกแย่งตลาดของอินเตอร์เน็ตทีวี
โดยยังคาดกำไรปกติปีนี้โตเพียง 1.6% จากปีก่อน จากภาระค่าเสื่อมฯของไทยคม 8 ที่เพิ่งยิงขึ้นสู่วงโคจรปลาย พ.ค. แม้ราคาหุ้นจะมี upside จากราคาเหมาะสมที่ 27.50 บาท แต่ไม่น่าสนใจลงทุน
ด้านบล..กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ถือ"หุ้น THCOM ให้ราคาเหมาะสมที่ 25.80 บาท โดยเห็นว่าการที่จะเปลี่ยนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นกระทรวงดิจิตอลทำให้คาดว่าข้อสรุปค่าตำแหน่งวงโคจรยังคงจะยืดเยื้อต่อไป ดังนั้น จึงยังไม่ใส่ดาวเทียมดวงใหม่ในประมาณการของบริษัท
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน THCOM มีดาวเทียมเพียง 2 ดวงที่มี 100% Utilization rate โดย IPSTAR และ ไทยคม 6 มีอัตรา Utilization rate เพียงแค่ 57.5% และ 65.5% ตามลำดับ โดยคาดว่าไทยคม 8 จะเป็นดาวเทียมเพียงดวงเดียวที่สามารถเพิ่ม Utilzation rate เป็น 17% ในปี 59, 40% ปี 60, และ 50% ปี 61 โดย capacity ที่เหลือของไทยคม 6 และไทยคม 8 หลังจากปี 61 เป็น capacity ของพื้นที่ในแอฟริกา
โดยในประมาณการคาดว่าจะไม่มีลูกค้าใหม่จากแอฟริกาเนื่องจากในปัจจุบันเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ได้ผล มาร์จิ้นที่ต่ำรวมถึงคู่แข่งส่วนใหญ่เป็นประเทศจากยุโรปซึ่งมีความสัมพันธ์กับทางแอฟริกาอยู่แล้วเนื่องจากเคยเป็นประเทศอาณานิคม โดยราคาปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่ EV/EBITDA 5.3x และ 4.5x ปี60 ซึ่งต่ำกว่า -2SD (5.2x) ของค่าเฉลี่ย 3 ปี