สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (13 - 17 มิถุนายน 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 437,374.34 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 87,474.87 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 7% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 65% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 286,365 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 129,722 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 4,461 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% และ 1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB206A (อายุ 4.0 ปี) LB196A (อายุ 3.0 ปี) และ LB176A (อายุ 1.0 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 52,379 ล้านบาท 24,829 ล้านบาท และ 11,277 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น GLOBAL172A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 394 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) รุ่น PS171A (A) มูลค่าการซื้อขาย 324 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น MBTH182A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 268 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2-4 bps. ในตราสารระยะยาว โดยตราสารอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 4 bps. จาก 2.10% มาอยู่ที่ 2.14% ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.25-0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 277,000 ราย แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 270,000 ราย ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่ตลาดติดตามยังคงเป็นการทำประชามติของสหราชอาณาจักรในวันพุธที่ 23 มิ.ย. ว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ (Brexit)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (13 -17 มิ.ย. 59) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 8,223 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 5,156 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 4,523 ล้านบาท และเป็นตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 17,902 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (13 - 17 มิ.ย. 59) (6 - 10 มิ.ย. 59) (%) (1 ม.ค. - 17 มิ.ย. 59) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 437,374.34 471,544.03 -7.25% 10,910,029.50 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 87,474.87 94,308.81 -7.25% 98,288.55 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 112.28 113.68 -1.23% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 107.57 107.68 -0.10% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (17 มิ.ย. 59) 1.36 1.44 1.45 1.61 1.81 2.14 2.5 2.82 สัปดาห์ก่อนหน้า (10 มิ.ย. 59) 1.38 1.44 1.46 1.57 1.79 2.1 2.46 2.77 เปลี่ยนแปลง (basis point) -2 0 -1 4 2 4 4 5