(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ รอปัจจัยชี้นำ-รอผล Brexit ออกมา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 21, 2016 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับ Brexit ที่โพลออกมาล่าสุดอังกฤษต้องการจะอยู่ในสหภาพยุโรป (อียู) ต่อไปมากกว่า แต่ตลาดหุ้นไทยก็อาจจะได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ถ่วงอยู่ เนื่องจากคาดว่าอาจจะต้องสูญเสียรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อีกทั้งเมื่อวานนี้หุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ ตลาดฯคงกำลังรอปัจจัยชี้นำ และรอผล Brexit จริงออกมา ซึ่งขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอน ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้จะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยจะอิงไปทางบวกเล็กน้อย

พร้อมให้แนวรับ 1,420 จุด ถัดไป 1,410-1,415 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425-1,430 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,804.87 จุด พุ่งขึ้น 129.71 จุด (+0.73%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,837.21 จุด เพิ่มขึ้น 36.87 จุด (+0.77%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,083.25 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด (+0.58%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 89.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.29 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 3.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.93 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 มิ.ย.59) 1,421.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.67 จุด (+0.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,186.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 มิ.ย.59) ปิดที่ 49.37 ดอลลาร์/
บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 มิ.ย.59) ที่ 6.96 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.21 ทรงตัวจากวานนี้ ยังรอความชัดเจนผล Brexit
  • รฟม.เผย เจรจาตรง BEM เดินรถสีน้ำเงินต่อขยาย ประหยัดกว่าประมูลถึง 9 พันล้านบาท คาดกรรมการ PPP เคาะก.ค. เซ็นสัญญาได้ในต.ค. ขณะที่ลุยประมูลสีส้ม เกือบ 8 หมื่นล้านบาท
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมจะใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทยกับอินเดีย ขณะที่นายกรัฐมนตรีอินเดียก็พร้อมส่งเสริมให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในอินเดีย
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานยอดธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการทางโทรศัพท์มือถือ (โมบายแบงก์กิ้ง) และอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ล่าสุด ณ สิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามียอดคงค้างบัญชีลูกค้าที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง 12.9 ล้านราย เพิ่มขึ้น 20.75% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีปริมาณการทำธุรกรรมรวม 22 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 33.81% และมูลค่าการทำรายการรวม 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.92%
  • "ประจิน"ให้การบ้าน กสทช.หาแนวทางยกเลิกระบบใบอนุญาตดาวเทียม ที่ไทยคมจ่ายถูกแค่ 5.75% กลับมาใช้ระบบสัญญาสัมปทานที่เคยจ่าย 20.5% พร้อมทำสัญญาฉบับใหม่ Deep of Agreement เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ไม่ให้รัฐเสียเปรียบ
  • พาณิชย์เตรียมถกกระทรวงพลังงาน ลดใช้น้ำมันปาล์มผลิตไบโอดีเซลจาก บี7 เหลือ บี5 หลังผลผลิตปาล์มลดจากปัญหาภัยแล้ง ห่วงกระทบการบริโภค

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KBANK, BBL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า BBL 190 บาท, เป้า KBANK 194 บาท สินเชื่อเดือน พ.ค. โตเด่น +2.7 % M-M และ +1.8% M-M ตามลำดับ ซึ่งเซอร์ไพรส์ ทำให้สินเชื่องวด 5M59 ของ KBANK +2% YTD ส่วน BBL กลับมาเติบโต 1.6% YTD จากที่ติดลบมาตลอดทั้งปี เป็นสัญญาณว่าการปล่อยสินเชื่อในระยะต่อไปว่าเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ราคาหุ้นทั้งคู่ที่ลงมาสะท้อนผลกระทบจาก Promptpay แล้ว
  • BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร"เพิ่มเป้าเป็น 4.70 บาท จากการปรับกำไรปี 2559-60 ขึ้น 15% และ 11% ทำให้กำไรปีนี้โต 79% Y-Y ปีหน้าโต 19% Y-Y แม้การเติบโตจะแรงขึ้นจากการขายกล้องและต่อยอดด้วยการรุกตลาดพิมพ์ภาพ แต่อัตราการเติบโตที่แรงที่สุดน่าจะอยู่ในปีนี้เท่านั้น
  • SPRC (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 13.90 บาท แม้ว่าสเปรดดีเซลดูไบและเชื้อเพลิงอากาศยาน-ดูไบจะอ่อนตัว แต่มองความต้องการน้ำมันเบนซินที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาลในสหรัฐช่วง 2Q-3Q59 และอุปทานน้ำมันเบนซินที่ยังมีต่ำกว่าความต้องการในปี 2559 น่าจะส่งผลดีต่อ SPRC ด้วยอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่เติบโตแข็งแกร่งตามความต้องการของผู้บริโภคเทียบกับน้ำมันดีเซลที่อุปสงค์จากภาคอุตสาหกรรมเติบโตอ่อนตัว SPRC เป็นหุ้น top pick ในกลุ่มโรงกลั่นไทย เนื่องจากผลผลิตโดดเด่นจากการมีผลผลิตน้ำมันเบนซินสูงก่อนจะเข้าช่วงไฮ-ซีซั่นใน 2Q-3Q59, โครงสร้างต้นทุนต่ำ, อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า 7% และมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ P/E 6.8x ในปี CY16 เทียบกับ TOP ที่ 8x
  • BANPU (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหงสาจะดีขึ้นจาก utilaztion rate ในช่วง 2Q59 ที่คาดว่าจะใกล้เคียง 80% เทียบกับ utilization rate ที่ 66% ในช่วง 1Q59 และภาพรวมของ BANPU ได้ผ่านช่วงต่ำสุดไปแล้วและยังมีปัจจัยบวกต่างๆไม่ว่าจะเป็นการนำบริษัทฯลูก IPO ในช่วงปลายปี 59 และการลงทุนในธุรกิจ shale gas และ solar farm

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ