หุ้น THCOM ราคาร่วงลง 5.15% มาอยู่ที่ 22.10 บาท ลดลง 1.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 226.48 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.07 น. โดยเปิดตลาดที่ 22.40 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 22.50 บาท และราคาปรับลงทำระดับต่ำสุดที่ 21.70 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.ไทยคม (THCOM) ถูกกดดันจากข่าวที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และรัฐบาลจะหารือเพื่อดึงดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับสู่ระบบสัมปทานเพื่อให้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 20.5% เช่นเดิมจนถึงปี 2564 (ระบบใบอนุญาตจ่ายค่าธรรมเนียม 5.25%) หรือทำสัญญาใหม่เพื่อให้จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มและให้ภาครัฐใช้บริการฟรี
ในแง่ข้อกฎหมายไม่คิดว่าจะทำได้เนื่องจากใบอนุญาตที่ THCOM ได้รับถูกต้องและมาจากกฎหมายพ.ร.บ.กสทช. เว้นแต่เพียงว่ารัฐบาลจะใช้ ม.44 กรณีเลวร้ายสุดที่ต้องกลับไปจ่ายส่วนแบ่ง 20.5% จะทำให้กำไรสุทธิลดลงราว 8.5% หรือกรณีให้ภาครัฐใช้ดาวเทียมฟรีซึ่งปัจจุบัน TOT ใช้งาน IPSTAR อยู่ จะกระทบกำไรสุทธิราว 20%
จึงแนะนำให้"หลีกเลี่ยง"การลงทุนจากความไม่แน่นอน ด้าน Regulation สูงทำให้ประมาณการกำไรมี Downside จากปัจจุบันที่คาดโตเฉลี่ยเพียง 3% เมื่อเทียบปีต่อปี ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
ด้านบล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ได้ศึกษาผลกระทบต่อประมาณการกำไรเบื้องต้นในปี 2560-61 คาดว่าจะลดลงราว 8.1% ต่อปี และจะกระทบมูลค่าพื้นฐานราว 2 บาท หรือจะเหลือ 30 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า THCOM จะปฏิเสธข้อเสนอของรัฐฯ และมีโอกาสสูงที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในอนาคต เนื่องจากดาวเทียม 2 ดวงดังกล่าวมีการทำสัญญาผูกพันระหว่างภาครัฐฯและเอกชนให้อยู่ภายใต้ระบบใบอนุญาตอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังต้องติดตามพัฒนาการต่อ
THCOM อาจเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น จากการที่รัฐมีโอกาศผลักดันให้ ดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับมาอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัมปทานเดิม จากปัจจุบันที่ใช้ระบบใบอนุญาต ทั้งนี้ภายใต้ระบบสัมปทาน THCOM มีภาระต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐราว 20.5% ของรายได้ เช่นเดียวกับที่ดาวเทียมดวงอื่น ๆ ที่อยู่ใต้สัมปทานในปัจจุบัน คือ ไทยคม 4,5 และ 6 ขณะที่ต้นทุนใบอนญาตที่ดาวเทียมดวง 7 และ 8 ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน (ดวง 7 ระหว่างปี 255-2575 และ ดวง 8 ระหว่างปี 2559-2575) มีค่าใบอนุญาตเพียง 5.25% ดังนั้นหากเกิดขึ้นจริงจะกระทบต่อประมาณการรายได้ และ กำไร นับจากนี้เป็นต้นไป รวมถึงกระทบต่อมูลค่าหุ้นภายหลังจากการปรับประมาณการลงแล้วดังกล่าวข้างต้นก็ตาม
หลังจากวานนี้นักวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2559-2560 ของ THCOM ลงเฉลี่ยปีละ 14% สะท้อนการที่ลูกค้ารายหนึ่ง คือ CTH ยกเลิการใช้ดาวเทียมไทยคม 5 และ 6 ทรานสปอนเดอร์ (สร้างรายได้ปีละ 400 ล้านบาท) และ ต้องปรับมูลค่าพื้นฐานลง 22% ทำให้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปีนี้ที่ 32 บาท อย่างไรก็ตามการปรับลดประมาณการกำไรของ THCOM ดังกล่าว จะกระทบต่อ การบันทึกรายได้ของบมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ในฐานะที่เป็นบริษัทแม่ และ ถือหุ้น THCOM ราว 41.4% ของทุนเรียกชำระแล้ว กล่าวคือ การปรับลดประมาณ THCOM ลงดังกล่าว จะทำให้กำไรสุทธิในปี 2559 และ 2560 ลดลงราวปีละ 1% ใกล้เคียงกัน และกระทบมูลค่าหุ้นเพียง 1 บาท เหลือ 74 บาท จึงยังแนะนำซื้อ เพื่อรับเงินปันผล 7.51% ขณะที่ราคาหุ้นยังมี P/E ต่ำเพียง 13.2 เท่า และ มี upside 40%
วานนี้ (20 มิ.ย.) หุ้น THCOM ปิดที่ 23.30 บาท ลดลง 0.20 บาท (-0.85%)