หุ้น THCOM ดีดตัวในวันนี้หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ซึ่งเช้านี้ราคาหุ้นปรับขึ้น 2.79% มาอยู่ที่ 22.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 315.14 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.04 น. โดยเปิดตลาดที่ 21.70 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 22.30 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 21.70 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไทยคม (THCOM) ให้ราคาเป้าหมายที่ 50.06 บาท โดยมองว่าราคาหุ้น THCOM ปรับลงมามากเกินไป และการดึงดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับไปสู่ระบบสัมปทานจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานมากนัก ระดับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ยังอยู่ในระดับ 6,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่าผลกระทบนั้นมองว่าไม่ได้มากอย่างที่ตลาดกังวล และเชื่อว่าผลสรุปที่ออกมาจะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลกำลังหาแนวทางการกำกับดูแลและการบริหารงานกิจการอวกาศ หลังผลการศึกษาของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเสนอทางออกไว้ 2 แนวทาง คือให้ดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับมาอยู่ภายใต้สัมปทานเดิมที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐ 20.5% ของรายได้จนกว่าจะหมดอายุสัมปทานในปี 64 เช่นเดียวกับดาวเทียมไทยคม 4 ,5 และ 6 ที่ยังอยู่ในระบบสัมปทาน
ส่วนอีกแนวทางหนึ่งให้กำหนดเงื่อนไขใหม่โดยทำสัญญาใหม่เป็น Deep of Agreement ซึ่งจะกำหนดเงื่อนไขให้จ่ายธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้น และให้ภาครัฐได้ใช้บริการดาวเทียมเพิ่มมากขึ้น
ทรีนีตี้ มองว่าประเด็นดังกล่าวสร้างแรงกดดันให้กับ THCOM ในช่วงนี้ ถึงแม้ว่าผลกระทบจากส่วนแบ่งรายได้จากไทยคม 7 และ 8 มาอยู่ภายในสัญญาสัมปทาน เนื่องจากรายได้จากไทยคม 7 และ 8 ยังอยู่ในสัดส่วนที่น้อย ปัจจุบันไทยคมมีการจ่าย Regulatory cost เฉลี่ยนประมาณ 18% ของรายได้ในส่วนของดาวเทียม ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดจึงไม่ได้มากอย่างทีตลาดกังวลใจ ซึ่งคิดเป็นผลกระทบจากเป้าหมายของทรีนีตี้เพียง 3 บาทเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่ภาครัฐจะพยามบีบให้ไทยคมกลับมาอยู่ในระบบสัญญาสัมปทานเดิมนั้น มองว่าเนื่องจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ต้องสูญเสียรายได้บางส่วนไปทำให้ต้องการแก้ไขข้อบังคับเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งรายได้กลับคืนมาเนื่องจากปัจจุบันดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 อยู่ภายใต้ใบอนุญาตที่จ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)