นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคลล และเลขานุการบริษัท บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) เปิดเผยว่า ยอดขายในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้บริษัททำได้แล้ว 1.05 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 3.64 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/59 ที่เป็นโครงการที่บริษัทลงทุนเอง ได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม Life สุขุมวิท 48 ที่สามารถปิดการขายโครงการได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายทั้งปีนี้ยังจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.1 หมื่นล้านบาท โดยจะเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังอีก 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.53 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.07 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมที่ลงทุนร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.46 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้งปีนี้บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.25 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกบริษัทเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ
"โครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดในครึ่งปีหลังอีก 13 โครงการ เรามีที่พร้อมเพื่อรองรับการเปิดไว้แล้ว และอาจจะมีการเปิดคอนโดฯเพิ่มมากกว่าแผนอีก 1-2 โครงการ ในครึ่งปีหลัง เพราะยังมีที่ดินที่เราพิจารณาจะทำเพิ่มอีก ซึ่งมองว่าตลาดในช่วงครึ่งปีหลังยังมีดีมานด์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะดีมานด์คอนโดฯในกรุงเทพฯ และกลยุทธ์ของเราต่อไปเราก็จะนำคอนโดฯไปโรดโชว์ขายให้กับลูกค้าต่างชาติ เพื่อเพิ่มสัดส่วนยอดขายของลูกค้าต่างชาติให้เพิ่มขึ้นด้วย หลังจากเรานำโครงการคอนโดฯ Life สุขุมวิท 48 ไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการขายให้กับลูกค้าต่างชาติครั้งแรกของเรา และได้รับผลตอบรับที่ดีกลับมา ส่วนงบซื้อที่ดินตอนนี้ใช้ไปแล้ว 3 พันล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 8 พันล้านบาท โดยการซื้อที่ดินของเราก็จะเน้นทำเลแนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อนำมาพัฒนาโครงการในปีหน้า"นายภูมิพัฒน์ กล่าว
นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับรายได้ในปีนี้บริษัทมั่นใจทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.37 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2.23 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงที่เหลืออีก 3 ไตรมาสของปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อีก 1.3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมี Backlog อยู่ที่ 1.47 หมื่นล้านบาท และส่วนที่เหลืออีกกว่า 1 พันล้านบาทจะทยอยรับรู้รายได้ไนปี 60 นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 60 เติบโต 10% จากปีนี้
ด้านอัตรากำไรสุทธิในปี 60 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 14-15% จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าอยู่ที่ 11-12% โดยเป็นผลมาจากในปีหน้าบริษัทจะรับรู้ผลประกอบการของโครงการคอนโดมิเนียมที่ร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 20% หรือมาอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท จากปีนี้ที่จะมีการรับรู้ผลประกอบการของบริษัทร่วมทุนอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นเป็นโครงการที่ให้มาร์จิ้นสูง และส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในปีหน้าเพิ่มขึ้นตามมาด้วย