นายสรัฐ เตกาญจนวนิช ผู้จัดการสำนักวางแผนธุรกิจและการเงิน บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า หลังจากที่ผลออกมาว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปแล้ว มองว่าคงเป็นผลกระทบที่น้อยมากสำหรับบริษัทฯ เพราะในช่วงที่ผ่านมาได้มุ่งเน้นการเข้าไปบุกตลาดสหรัฐให้มากขึ้น ซึ่งมีกำลังซื้อที่มากกว่า หลังเห็นแล้วว่าเศรษฐกิจยุโรปมีการชะลอตัว สลับกับทรงตัว มาตั้งแต่ปี 53-54
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากอียูราว 35% เท่านั้น และการขายสินค้าไปยังประเทศในกลุ่มอียูก็จะอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตามจากกรณีที่ค่าเงินยูโรอาจจะอ่อนค่าลงนั้น ก็อาจจะกระทบต่อผู้ซื้อในอียูเกี่ยวกับราคาสินค้าที่จะสูงขึ้น โดยเบื้องต้นประเมินว่าราคาจะสูงขึ้นราว 10% บริษัทก็จะปรับการขายไปยังสินค้าแบบอื่นที่มีราคาถูกลงเพื่อที่จะเป็นการรักษาฐานลูกค้าให้คงอยู่ต่อไป
ขณะที่ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,893.04 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 229.64 ล้านบาท
โดยทางกลับกันมองว่าการที่อังกฤษออกจากอียูนั้นอาจจะเป็นผลดีต่อบริษัท เพราะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินบาท ส่งผลให้มีกำลังซื้อจากสหรัฐเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้ทำการตลาดอย่างหนัก โดยทีมผู้บริหารจะเดินทางด้วยตนเองราว 3-4 ครั้งเพื่อเพิ่มยอดขาย
"หลังจากที่ผลออกมาว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปแล้ว เราก็มองว่าคงเป็นผลกระทบที่น้อยมากสำหรับเรา เพราะในช่วงที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่าเศรษฐกิจยุโรปมีการชะลอตัว สลับกับทรงตัว เราจึงได้มุ่งเน้นการเข้าไปบุกตลาดสหรัฐให้มากขึ้นซึ่งมีกำลังซื้อที่มากกว่า แต่ก็ยังรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้อยู่เพื่อที่จะกลับไปได้เร็วหากเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป และประเทศในแถบ ๆ นั้นกลับมาดี "นายสรัฐ กล่าว
ด้านนายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ TOG กล่าวว่าในปี 59 บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากการขายและบริการไปยังประเทศในสมาชิกสหภาพยุโรปเท่ากับ 35.34%จากรายได้ทั้งหมดในปีนี้ จากปีก่อนที่ 41.73% และตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากการขายและบริการในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมดซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงปีก่อน
ขณะที่คู่ค้าที่สำคัญของบริษัทในสมาชิกสหภาพยุโรป คือ กลุ่มร้านค้าปลีก Specsavers ในประเทศอังกฤษ บริษัทประเมินว่าแผนธุรกิจที่บริษัทกับ Specsavers จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดร่วมกันตั้งแต่ต้นปี 2559 โดยกลุ่มผู้ค้าปลีกจะสั่งซื้อสินค้าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก
"บริษัทยังคงเป้าหมายการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนืออย่างต่อเนื่อง เพื่อชดเชยการคาดการณ์รายได้จากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวของภูมิภาคยุโรป" TOG ระบุ