นายปิยะ ยอดมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่าจำนวนผู้โดยสารในปีนี้จะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านคน จากที่ได้ปรับลดเที่ยวบินลงไป 20% หลังจากตั้งแต่ช่วงต้นปี 59 ที่สายการบินนกแอร์ประสบปัญหานักบินขาดแคลนจนทำให้ต้องยกเลิกทำการบินไปหลายเที่ยวบิน
ขณะเดียวกันก็เลื่อนแผนการเปิดจุดบินใหม่ไปเมื่อไตรมาส 1/59 มาเป็นไตรมาส 4/59 โดยสายการบินนกแอร์เตรียมที่จะเปิดจุดบินใหม่ในจีน 6 เมือง ได้แก่ หนานหนิง, ชิงเต่า , เทียนจิน, ฉกชิ่ง เป็นต้น และอาจจะบินไปเมืองไทเป ที่ประเทศไต้หวัน โดยระหว่างนี้ได้ให้บริการแบบเช่าเหมาลำ (ชาร์ตเตอร์ไฟลท์) ไปบางเมืองในจีน อาทิ เฉิงตู , หยินฉวน เป็นต้น โดยขายตั๋วที่จีนและขนส่งผู้โดยสารจีนมาเที่ยวในไทย
นายปิยะ กล่าวว่า บริษัทได้แก้ปัญหานักบินด้วยการเปิดรับนักบินใหม่ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มมาเป็นประมาณ 200 คน ซึ่งสูงกว่าจำนวนเดิมและมีเป้าหมายจะรับนักบินเพิ่มตามแผนจำนวน 371 คนภายในต.ค.-พ.ย. 59 เพื่อรองรับการขยายเส้นทางการบิน และการเพิ่มความถี่ในจุดบินเดิม
"เราแก้ปัญหานักบิน ตอนนี้รับนักบินได้มากกว่าเดิม ประมาณ 200 คน ซึ่งของเดิมก็ยังไม่พอ และยังต้องรับเพิ่มอีก เราต้องการ 371 คน เราขยายเส้นทางทั้ง domestic และ จีน"นายปิยะ กล่าว
ในปีนี้ NOK จะรับมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 3 ลำ เป็น เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 3 ลำ (189 ที่นั่ง)ซึ่งรับมอบไปแล้ว 1 ลำ ส่วนที่เหลือรับมอบปลายปีนี้ โดยปัจจุบันมีจำนวนฝูงบิน 29 ลำ และสิ้นปี 59 จะมีจำนวน 31 ลำ
ปัจจุบัน NOK มีเส้นทางบินในประเทศ 24 เส้นทาง และต่างประเทศ 3 เส้นทางได้แก่ ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา, โฮจิมินห์ และ ฮานอย ประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ ในพ.ค.ที่ผ่านมา สายการบินนกแอร์ร่วมเป็นพันธมิตรรวม 8 สายการบินราคาประหยัดในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ กลุ่มพันธมิตร Value Alliance ประกอบดัวย สายการบินเซบูแปซิฟิก (รวมถึงสายการบิน Cebgo)จากฟิลิปปินส์ สายการบินเจจูแอร์จากเกาหลี สายการบินไทเกอร์แอร์ สิงคโปร์ สายการบินไทเกอร์แอร์ ออสเตรเลีย สายการบินวานิลลาแอร์จากญี่ปุ่น สายการบินสกู๊ต สายการบินนกสกู๊ต และสายการบินนกแอร์ ซึ่งผู้โดยสารจะสามารถเลือกเที่ยวบินและสำรองบัตรโดยสารได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของแต่ละสายการบิน และสามารถสำรองที่นั่งจากสายการบินหนึ่งไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ของสายการบินในกลุ่มพันธมิตรได้
นายปิยะ กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นเปิดให้เชื่อมต่อกัน 3 สายการบิน คือ สายการบินสกู๊ต สายการบินนกสกู๊ต และสายการบินนกแอร์ และคาดว่าการเชื่อมต่อระบบเชื่อมโยงของทั้ง 8 สายการบินจะเสร็จสมบูรณ์ภายในส.ค.นี้ และคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้การขายตั๋วทางออนไลน์ และขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งนี้จะเห็นผลในระยะยาว
อนึ่ง ในไตรมาส 1/59 NOK ขาดทุนสุทธิ 405.82 ล้านบาท
ณ วันที่ 15 มี.ค. 59 NOK มีบมจ.การบินไทย (THAI) ถือหุ้นใหญ่ 39.2% ,นายณัฐพล จุฬางกูร ถือหุ้น 9.77% ธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) ถือหุ้น 3.44% นายทวีฉัตร จุฬางกูร ถือ 2.86% ขณะที่นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NOK ถือหุ้น 2.02% ลดลงจากปีก่อนที่ถืออยู่ 3.28%
นายปิยะ กล่าวในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด (NOK ถือหุ้น 51%) ว่าในปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 3.5 - 4 แสนคน จากปีก่อนที่มีจำนวนผู้โดยสาร 1 หมื่นกว่าราย และคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor) 80% โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามี Cabin Factor ราว 82-83% พร้อมกันนี้มีแผนเปิดจุดบินใหม่ในจีน 2 เมืองในปลายปีนี้ ส่วนอินเดียกำลังศึกษาอยู่
สายการบินนกสกู๊ต เปิดดำเนินการเมื่อเม.ย.58 ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดดำเนินการ แต่ได้รับผลกระทบจากการที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ขึ้นธงแดงแก่ไทยและไทยต้องดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern : SSC ) ส่งผลให้เส้นทางบินไปญี่ปุ่นและเกาหลีไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้
ปัจจุบัน มีเส้นทางบินที่ไทเป ประเทศไต้หวัน , เทียนจิน ,นานกิง, ชิงเต่า,เสิ่นหยาง,ฉงชิ่ง ในประเทศจีน , สิงคโปร์