นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาดและการขาย บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ “Safe & Care" ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชั่น โดยจัดเต็มฟังก์ชั่นการใช้งานครบทุกอย่างในแอปฯเดียวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทั้ง Parental Controls ที่ให้ลูกค้ากำหนดเบอร์ , วัน , เวลา ให้โทรออก-รับสาย และการใช้งานแอปฯต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกในครอบครัว
รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในการใช้ชีวิตด้วยหลากหลายฟังก์ชั่น ได้แก่ Family Location , กำหนด Safe Zone , แจ้งเตือนเมื่อออกนอก Safe Zone , Check In , Family Alert เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และ Phone Security กรณีเครื่องสูญหาย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความอุ่นใจและสบายใจ ในการดูแลการใช้งานมือถือของคนที่รักและห่วงใยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของเด็กและผู้สูงอายุได้ตลอดเวลาแม้อยู่ห่างไกล นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่รวมฟังก์ชั่นการใช้งานครบทุกอย่างไว้ในแอปฯเดียว เพื่อให้ลูกค้าใช้งานง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
"บริษัทฯได้เปิดตัวนวัตกรรมแอปพลิเคชั่นใหม่ "Safe & Care ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นดูแลการใช้งานมือถือของคนที่รักและห่วงใย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน และดูแลความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของเด็กและผู้สูงอายุได้ตลอดเวลาแม้อยู่ห่างไกล"นายฐิติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯคาดภายใน 1 ปีจากนี้ จะมีลูกค้าใช้งานแอปพลิเคชั่นดังกล่าวกว่า 1 แสนราย และน่าจะมีรายได้ราว 70 ล้านบาท โดยมองเทรนของแอปพลิเคชั่น ผู้ให้บริการต่างๆเริ่มให้ความสำคัญกับการออกแอปพลิเคชั่นมากขึ้น เพื่อเน้นการให้บริการการดูแลลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ค่าบริการในการใช้บริการ จะมีราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 49 บาท ซึ่งบริษัทฯมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับลูกค้าของเอไอเอส อีกทั้งเอไอเอส ยังคงเดินหน้านำบริการดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ เข้ามายกระดับการใช้ชีวิตของครอบครัวไทย ให้มีความปลอดภัย และอุ่นใจทุกครั้งที่ใช้งานมือถือ ให้สมกับการเป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชั่นอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงเป้าหมายปีนี้จะมีโครงข่ายครอบคลุมการใช้งานของประชากรทั้งหมด 80% และการขยายฐานลูกค้า 4G สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 10 ล้านราย จากปัจจุบันอยู่ที่ 6 ล้านราย ซึ่งจะมาจากลูกค้า 2G และ 3G ที่ย้ายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“เอไอเอสดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การเป็นผู้นำในทุกมิติ หรือ 4 Best ทั้ง Best Network , Best Applications , Best Services และ Best People มาอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับหนึ่งของประเทศไทย รวมทั้งเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมต่าง ๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นพัฒนาแอปพลิเคชั่นในหลากหลายรูปแบบ เพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับการใช้ชีวิตของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ให้ง่าย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่จากการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในปัจจุบัน เอไอเอสจึงนำเครือข่ายคุณภาพผสมผสานกับการเป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชั่น...โดยเอไอเอสจะยังคงเดินหน้านำบริการดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ เข้ามายกระดับการใช้ชีวิตของครอบครัวไทย ให้มีความปลอดภัย และอุ่นใจทุกครั้งที่ใช้งานมือถือ ให้สมกับการเป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชั่นอย่างแท้จริง" นายฐิติพงศ์ กล่าว
ด้านนายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารผลิตภัณฑ์ ADVANC กล่าวถึงรายละเอียดฟังก์ชั่นการใช้งานของแอป “Safe & Care" ใน 2 ด้านหลัก ๆ ได้แก่
การดูแลสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ ให้ใช้งานมือถืออย่างเหมาะสม ด้วยฟังก์ชั่น Parental Controls โดยกำหนดเบอร์โทร , วัน และเวลา ในการโทรออก-รับสาย รวมทั้งกำหนดการใช้งานแอปฯต่าง ๆ เพื่อให้เนื้อหาและระยะเวลาในการใช้งานเหมาะสมกับอายุของเด็ก เป็นการส่งเสริมการใช้งานมือถือเพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในโลกออนไลน์อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา
การดูแลความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัวทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ด้วยหลากหลายฟังก์ชั่น ทั้ง Family Location บอกตำแหน่งของสมาชิกในครอบครัวได้ทุกที่ ทุกเวลา , กำหนด Safe Zone และแจ้งเตือนเมื่อออกนอก Safe Zone , Check In เพื่อแจ้งตำแหน่งของตนเองให้สมาชิกในครอบครัวทราบ , Family Alert ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และ Phone Security แสดงตำแหน่งล่าสุดของเครื่องมือถือ พร้อมสั่งล็อกและล้างข้อมูลเมื่อโทรศัพท์สูญหาย
ลูกค้าเอไอเอสสามารถดาวน์โหลดแอป “Safe & Care" มาไว้บนมือถือได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีโปรโมชั่นสุดคุ้ม สมัครแพ็กเกจวันนี้ในราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 49 บาท รับสิทธิ์ใช้งานฟรีเดือนที่ 2 และเดือนที่ 3 เพียงกด *629*1# แล้วกดโทรออก พิเศษสำหรับลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด ใช้งานฟรี 2 เดือนแรกทันที เพียงกด *629*41# แล้วกดโทรออก