นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 42-48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมองว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากกรณีอังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่ผลกระทบต่อประเทศไทยคงไม่มากด้วยเช่นกัน โดยไทยอาจจะได้รับกระทบทางอ้อมในด้านเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงบ้าง แต่คงไม่มีผลในทันทีเพราะการแยกตัวของอังกฤษต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
ขณะที่การบริหารความเสี่ยงด้านการเงินของปตท.นั้น ปัจจุบันมีเงินกู้ในหลายสกุล ซึ่งรวมถึงสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วย แต่ก็อยู่ในระดับที่สมดุลกัน จึงไม่จำเป็นต้องซื้อค่าเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงมากนัก
นายสรัญ กล่าวอีกว่า สำหรับความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในประเทศเติบโต 8-9% เป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทดแทนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) หลังรัฐบาลปรับราคา LPG และ NGV ให้สะท้อนตลาดโลกมากขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลดลงมามากตามทิศทางตลาดโลก ทำให้ราคาเชื้อเพลิงดังกล่าวอยู่ในระดับใกล้เคียงกันจากเดิมที่มีราคาต่างกันมาก ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย โดยยืนยันโรงกลั่นน้ำมันในประเทศยังมีการกลั่นน้ำมันเพียงพอที่จะรองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ